กรณีมีรายงานว่า ระหว่างเกิดการปะทะในการชุมนุมของ กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วมในนาม “REDEM" เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2564 โดยทาง ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสริฐสนิท รองสารวัตร สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งได้เดินทางมาปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้เกิดอาการหัวใจวาย หยุดเต้นอย่างกะทันหัน ทำให้เพื่อนตำรวจ และแพทย์ ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ต่างช่วยกันปั้มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ ได้นำตัวส่งพยาบาลโรงพยาบาลราชวิถี ในเวลาต่อมา และแพทย์ได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน พร้อมกับปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล ทำให้ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนข้าราชการตำรวจ และผู้บังคับบัญชา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 3 ขั้น เลื่อน 3 ชั้นยศ รองสารวัตร สน.ธรรมศาลา และเงินช่วยเหลือครอบครัว 2.7 ล้านบาท โดยที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช น. เปิดเผยถึงเหตุการชุมนุมบริเวณหน้า กรมทหารราบที่ 1 รอ. ว่า เมื่อ(28กพ.64) การชุมนุมเริ่มตั้งแต่ 15.00 น. กระทั้งถึงเวลาประมาณ ตี 2 ซึ่งตลอดการชมนุมเจ้าหน้ที่ตำรวจ ได้มีการแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม อยู่เป็นระยะๆ แต่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทำการรื้อลวดหนาม รั้วเหล็ก และขว้างป่าก้อนหิน ขวดน้ำ และสิ่งของ ซึ่งในขณะนั้นตำรวจเกรงว่า เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นจึงต้องเข้าระงับเหตุ
อย่างไรก็ตามถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจใช้อวุธปืนยิงกระสุนยาง ซึ่งยืนยันว่าวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างที่นำมาใช้ในการควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด และไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายถึงชีวิต อีกทั้งยังใช้ตามความจำเป็น โดยหวังว่าให้สถานการณ์ได้ยุติลงโตยเร็วที่สุด สำหรับกรณีที่มีภาพตำรวจ ทำร้ยผู้ชุมนุมปรากฎอยู่บนโซเชียลนั้น ทางตำรวจนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อทำการจับกุมผู้ที่กระทำความผิด โดยต้องออกมานอกแนวเพื่อทำการจับกุมอย่างรวดเร็ว ทำให้บางครั้งจำเป็นต้องใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อดึงตัวผู้กระทำความผิดกลับเข้ามาในแนวตำรวจ
ส่วนกรณีภาพที่พบว่า มีตำรวจเข้าจับกุมผู้ชุมนุม ที่กำลังรักษาตัวอยู่กับหน่วยแพทย์อาสานั้น เป็นเพียงทำการตรวจสอบ ไม่มีการจับกุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตม อยากให้มองภาพรวมทั้งหมดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ส่วนหลังจากที่มีการยุติการชุมนุมแล้ว แต่ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วน ยังไปรวมตัวที่หน้าสน.ดินเเดง และ สน.สุทธิสาร พร้อมกับทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย และจะดำเนินการจับกุมผู้กอเหตทั้งหมดต่อไป โดยผู้ที่ถูกจับกุมอยู่ที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1
ทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช น. ระบุว่า เมื่อวันที่28กพ.64 ที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในที่เกิดเหตุจำนวนทั้งสิ้น 22 ราย ซึ่งการจับกุมเป็นไปตามขั้นตอน และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา พรบ.ควบคุมโรค , พรก. ฉุกเฉิน , พรบ. เครื่องขยายเสียง และจะแจ้งข้อหาต่อผู้ชุมนุมบางส่วนในข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ และร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 90 นาย รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 27 ราย และ เสียชีวิต 1 นาย ขณะที่ พล ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรม เบื้องต้นจะมีการเลื่อน 3 ชั้น 3 ชั้นยศ และเงินช่วยเหลือครอบครัว 2,740,000 บาท ซึ่งกรณีนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วง โดยได้กำชับให้ดูแล และเยียวยา ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่