กลายเป็นวาระประเด็นแห่งชาติหลังจากที่โลกออนไลน์สะพัดเรื่องราวของ 2 เมียหลวงที่สามีที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายหนีไปแต่งงานใหม่ ซึ่งล่าสุด ทีมเมียหลวงที่นำทีมโดย ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล ที่ได้เปิดใจสัมภาษณ์ สองเมียหลวงรุ่นน้องอย่าง จอย ที่สามีตำรวจหนีแต่งงานซ้อน และ พิมพ์ภรรยาทหารที่สามีตัวหนีมีเมียน้อยเป็นนางพยาบาล ในรายการคุยแซ่บ Show
โดยพิมพ์ ได้เริ่มต้นเล่าเลยว่า เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมค่ะ ไม่ร้องไห้แล้ว ร้องมาเยอะแล้ว ผ่านมาเยอะ ร้องไห้กับตัวเอง ร้องไห้กับลูก ผ่านมาเยอะมากแล้ว ซึ่งแรงบันดาลใจก็ได้มาจาก จอย ที่สามีตำรวจหนีแต่งงานซ้อน แล้วก็ไอดอลของเหล่าเมียหลวงอย่าง ธัญญ่า ธัญญาเรศ ซึ่งของทางตัวเองไม่เหมือนของจอยที่มีแม่สามีคอยช่วย คือเราต่อสู้ด้วยตัวเองมาตลอดแล้วเรามาเห็นจอยเป็นไอดอล เราเลยลุกขึ้นมาสู้ แล้วลงไปในเฟซบุ๊กว่า ทำไมแม่ย่าเขาใจดีจังเลย ทำไมแม่ย่าเรา ตัดพ้อน้อยใจอะไรอย่างนี้
เพราะว่าแม่ของฝ่ายชาย พาฝ่ายชายไปแต่งงานกับคนใหม่ ซึ่งตนเสียใจมากๆ เสียใจสุดๆ พอเห็นภาพตรงนั้นปุ๊บใจสลาย ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเรา เพราะเราเองก็ทำดีที่สุดกับแม่ย่า ก็รักเหมือนแม่อีกคนนึง ซึ่งตอนแรกที่ไม่มีผู้หญิงทางคุณปู่ คุณย่า รักหลานมาก แต่ที่เสียใจกว่าตอนนั้นเราท้อง แล้วลูกคนที่สองก็ต้องคลอดก่อนกำหนด อีกอย่างคือตอนนี้ลูกคนโตได้สิทธิ์ทุกอย่าง แต่ลูกคนเล็กเขายังไม่เซ็นรับ
แต่ล่าสุดทางสามีติดต่อกลับมา ซึ่งเขาบอกว่าได้โอนเงินมาให้แล้วนะ เราก็เลยปรี๊ดขึ้นมาก่อนหน้านี้เราอุ้มลูก เราผ่าตัดคลอดเราเหนื่อยขนาดไหน เพื่อไปเรียกร้องสิทธิ์คือไม่มีใครดูแล ไม่เหลียวแลเราเลย เราเลยบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่ดูแลเราเลย ตอนนี้เป็นข่าวแล้วไง แล้วคดีความที่ฟ้องหย่าไป ตอนนี้ปล่อยให้เรื่องเป็นของทนาย เรียกเงิน 1 ล้านบาท จากทั้งฝั่งสามีและผู้หญิง คือตอนนี้ลูกเราไม่ได้สิทธิ์อะไรอยู่แล้ว ไม่รู้จะมีทะเบียนสมรสไปทำไม
อยากบอกสามีความจริงก็คือความจริง อยากให้ออกมารับผิดชอบลูกด้วยกัน ส่วนผู้หญิงไม่มีอะไรจะพูด เพราะมันเจ็บช้ำน้ำใจมาเยอะมาก ขอให้เป็นกระบวนการที่ฟ้องไปเลยดีกว่า
ด้านจอยเองก็ได้เล่าเรื่องราวของตนว่า ตอนนี้เข้มแข็งมากเลย พร้อมสู้ พร้อมลุย ทุกสถานการณ์ ได้กำลังใจเยอะมาก ตอนนี้ให้ทนายจัดการดำเนิดการยื่นฟ้องไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 ตอนนี้ก็เหลือแต่ขึ้นศาลอย่างเดียว วันที่ 26 เมษายน ซึ่งด้วยหลักฐานที่เรามีก็คือชนะชัวร์ ส่วนการฟ้องเรียกเงิน 300,000 นั้นจริงๆ การฟ้องก็เพื่อให้เขาหลาบจำมากกว่า อย่าไปทำอีก ไม่ได้ฟ้องเพื่อความสะใจ
แต่ที่ได้ข่าวว่าฝ่ายเมียน้อยจะฟ้องเรากลับแล้วเรียกเงินหลายล้านนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นกระแสข่าวลือมากกว่า แต่ถ้าเขาฟ้องเราจริง ๆ เราก็พร้อมสู้ เราไม่มีอะไรที่ผิดเลย เราแค่ทวงสิทธิ์ของเรา ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องไม่เคยติดต่อกันกับผู้หญิงฝั่งนั้นเลยตั้งแต่วันเกิดเรื่อง และตนขอยืนยันว่าไม่คุย และกับสามีทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยเลย เรารอให้เขาติดต่อมาเหมือนกัน ลูกคนเล็กก็มีถามว่าพ่อไปไหน แต่เราก็บอกว่าพ่อไปทำงานหลายวัน คือลูกคนเล็กยังไม่ทราบ
เรื่องที่เราอยากคุยก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกมากกว่าว่าจะเอายังไงต่อไป ส่วนเรื่องของเราไม่มีปัญหา เขาจะอยู่กับเราหรือไม่อยู่ก็ไม่มีปัญหา เอาเรื่องลูกดีกว่า อยากให้เขารับผิดชอบเรื่องลูกมากกว่า แต่ถ้าถามว่าหย่ามั้ย บอกเลยว่ายังไม่หย่า อยากหย่าก็ฟ้องเอา ซึ่งเหตุผลก็คือด้วยความที่เขาเป็นข้าราชการ อยากจะรักษาสิทธิ์ของลูกไว้ก่อน แล้วเราก็ลำบากด้วยกันมานาน ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นตำรวจ อยู่ดีๆ ได้เป็นข้าราชการ มียศ มีตำแหน่ง จะถีบเราออกมันก็ไม่ใช่ ขอหวงสิทธิ์ไว้ก่อนดีกว่า
แต่ถ้าถามว่ายังรักมั้ย ... รักเหรอ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารักคืออะไร แต่ความรักที่มีต่อลูกโอเค เข้าใจ แต่ถ้ารักแบบหญิงชายไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร ซึ่งจากที่คบกันมา 16 ปี มันเป็นความผูกพันมากกว่า และที่ผ่านมาเขาเคยทำเราเจ็บช้ำน้ำใจเหมือนกัน ก็รู้สึกว่ามันเรื่อยๆ แต่ครั้งนี้ร้ายแรงที่สุด ซึ่งในมุมตนเองคนนี้คือรักแรก รักเดียว
ถ้าถามว่าความแค้นเต็ม100 ตอนนี้อยู่ในระดับไหน ถ้าผู้หญิง เต็ม 100 ให้ 100 เลย ส่วนแฟนตอบยากมากเลย คือผู้หญิงไม่น่าทำร้ายผู้หญิงด้วยกัน ส่วนผู้ชายเจ้าชู้เขาก็ไปเรื่อยๆ แต่ผู้หญิงเขารู้ทุกอย่าง เขาไม่น่าทำร้ายผู้หญิงด้วยกัน ไม่น่าจะทำร้ายเด็ก 2 คนที่ไม่รู้เรื่องก็เลยโกรธเขามากกว่า ที่คิดไว้ก็รอเขาเข้ามาคุยก่อน ถ้าผ่านไปนานๆ แล้ว เขายังไม่มาตกลงกัน ยังหนีอย่างนี้ ต่อไปเราอาจจะบอกเขาว่าเราอาจจะฟ้องเอาค่าเลี้ยงดูนะ เพราะว่าถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องให้กฎหมายจัดการ