เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ที่ สน.สำราญราษฎร์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง อายุ 23 ปี พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีการกระทำความผิดขณะร่วมชุมนุมนับ 1 ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน กับกลุ่มมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดย น.ส.ปนัสยา กล่าวก่อนขึ้นไปบนโรงพักว่า ทางพนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกให้ตนล่าช้า โดยนัดหมายให้ตนมาในวันที่ 4 มี.ค.แต่ปรากฏว่า หมายเรียกถึงบ้านพักในวันที่ 4 มี.ค.พอดี จึงต้องขอเลื่อนเพื่อมาในวันนี้ ส่วนความผิดที่ได้รับเบื้องต้นทราบว่า คือ การฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน พรบ.ความสะอาด พรบ.ควบคุมโรค และความเสียหายของการเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้ ซึ่งคราวนี้มีมูลค่าสูงถึง 5.9 ล้านบาท เท่าที่ทราบมีเพื่อนๆ อีก 5-6 คน ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกันและแต่ละคนก็เข้าพบพนักงานสอบสวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงเย็นวันนี้จะร่วมชุมนุมกับมวลชน อีกหรือไม่ น.ส.ปนัสยา ตอบว่า วันนี้ตนคงไม่ได้ไปชุมนุมเพราะมีธุระต้องอยู่กับครอบครัว เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) มีขึ้นศาลกรณีนัดฟังคำสั่งฟ้องในวาระการชุมนุม 19 กันยายน 2563 ทวงอำนาจคืนราษฎรที่ท้องสนามหลวง ซึ่งตนและพวกถูกแจ้งข้อหาตาม ม.112 ม.116 และฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน เกรงว่าศาลจะไม่ให้ประกันตัว จึงขอใช้เวลาอยู่กับครอบครัวก่อน ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลใดๆ นอกจากกลัวจะไม่ได้สอบ ไม่ได้เรียนต่อ แต่ทำใจไว้แล้วเพราะมันคือเส้นทางการต่อสู้.