เมื่อวันที่ 7 มี.ค.64 กรณีค่าฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เพิ่มสูงเป็นวันที่ 2ติดต่อกัน และติดอับดันคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้ต้องเตรียมน้ำ 40,000 ลิตร ใส่หุ่นยนต์หัวฉีด พ่นน้ำเพิ่มความชื้นลดผลกระทบ โดยเฉพาะบริเวณข่วงประตูท่าแพ ด้านศูนย์บัญชาการการป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ PM2.5 ใทุกชนิด ระหว่างวันที่ 15-22 มีนาคม 2564 แนะประชาชนPM2.5 ใ และสามารถไปใช้บริการห้องเซฟตี้โซนในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ได้
ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับอำเภอที่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ติดตามผลการดำเนินงาน เนื่องจากบางอำเภอมีจุดความร้อนที่อยู่นอกเขตพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยในวันนี้ (7 มี.ค.64)ตรวจพบจุดความร้อน ทั้งหมด 104 จุด ในจำนวนนี้มีเพียง 5 จุดที่อยู่ในเขตพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง และอีก 99 จุด อยู่นอกเหนือจากจุดการบริหารจัดการเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำในที่ประชุม 3 เรื่อง ทั้งเรื่องของการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากยังเกิดปัญหาของจุดความร้อนที่อยู่นอกพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิงจำนวนมาก รวมทั้งเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด เนื่องจากทุกคนต้องทำตามกติกาที่ได้มีการกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
เพื่อไม่ให้คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุของจุดความร้อนที่เกิดขึ้นและเรียกตัวบุคคลต้องสงสัยมาสอบถาม ซึ่งทุกพื้นที่จะต้องให้คำตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และต้องตามตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้โดยเร็ว และสุดท้ายคือเรื่องของการประกาศงดเผาทุกชนิด ระหว่างวันที่ 15 - 22 มีนาคม 2564 เพื่อให้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชนสวมหน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อยู่เสมอเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน งดออกกำลังกายกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังสามารถไปใช้บริการห้องเซฟตี้โซนที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 25 อำเภอได้ โดยเฉพาะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้มีการจัดทำห้องเซฟตี้โซนให้พี่น้องประชาชนได้เข้าไปใช้บริการด้วยเช่นกัน
ขอบคุณ
เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่