กลายเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโลกออนไลน์ กับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วาปีปทุม ปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ ในการล่อซื้อจับกุมพ่อค้ายารายใหญ่ จนขยายผลจับกุมได้ 52,427 เม็ด หลังจากนำเข้ามาจากประเทศลาว 1,200,000 เม็ด โดยเมื่อวันที่ 16 มีค 64 ที่สภ. วาปีปทุม จ.มหาสารคาม พร้อมชุดจับกุม คือ ร.ต.อ. สมควร ปริตรวา รองสว. สส. ฯ ที่ลงทุนปลอมตัวเป็นพระภิกษุสงฆ์เข้าไปทำการจับกุม นายสุริโย ประทุมชัย อายุ 38 ปีบ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 3 ต. ลาดพัฒนา อ. เมือง จ. มหาสารคาม และนายศักดิ์ศรี วงศ์พุทธะ อายุ 50 ปีบ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 1 ต. โคกสีทองหลาง อ. วาปีปทุม จ. มหาสารคาม พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 52527 เม็ด
เเละรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่น Jazz สีดำหมายเลขทะเบียนกฉ 5298 มหาสารคาม รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันรุ่น Almera สีขาวหมายเลขทะเบียน กน 2517 ร้อยเอ็ด โทรศัพท์ใช้ในการติดต่อซื้อขายจำหน่ายยาบ้าจำนวน 5 เครื่อง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายเหตุเกิดบริเวณภายในวัดปากน้ำหมู่ที่ 1 ต. หนองไฮ อ.วาปีปทุม จ. มหาสารคาม และขยายผลจับกุมไปที่บ้านเช่าเลขที่ 21 หมู่ที่ 18 ต. สีแก้ว อ. เมือง จ. ร้อยเอ็ด
โดยจากการสืบสวนรับแจ้งจากสายลับ นายสุริโย และนายศักดิ์ศรี เพิ่งพ้นโทษยาเสพติดมีออกมาจากเรือนจำ มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่อ. วาปีปทุมจ. มหาสารคามโดยใช้รถยนต์ นายสุริโยจะนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณวัดปากน้ำ ต. หนองไฮอ. วาปีปทุมจ. มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ. วาปีปทุม จึงได้วางแผนจับกุมและซุ่มดู โดย ร.ต.อ. สมควร ปริตรวา รองสว. สส. ฯ ปลอมตัวเป็นพระในวัดปากน้ำ พร้อมกับสายลับ เมื่อนายสุโย นำยาบ้ามาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 3069 เม็ด
และนายสุริโยฯ ได้ให้การว่าได้ร่วมกับนายศักดิ์ศรีฯ ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่โดยมีนางแอ่วเป็นคนสั่งการและได้เช่าบ้านร่วมกันไว้ที่ อ. เมืองจ. ร้อยเอ็ด และขณะนั้นนายศักดิ์ศรี ได้พักอยู่บ้านเช่าเลขที่ 59 หมู่ที่ 18 ต. สีแก้ว อ. เมือง จ. ร้อยเอ็ด และมียาบ้าเหลืออยู่เพื่อรอจำหน่ายจึงได้ยินยอมและนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดยาบ้าที่เหลือที่บ้านดังกล่าวพบยาบ้าอยู่ภายในบ้านดังกล่าวจำนวน 500 เม็ดกับนายศักดิ์ศรี และตรวจค้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน พบยาบ้าอีกจำนวน 24 มัด (มัดละ2000 เม็ดซุกซ่อนเอาไว้ฝากระโปรงหลังรถพบในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลอยู่ในรถ 4 ถุงรวมยาบ้าจำนวน 49,958 เม็ดรวมยาบ้าทั้งหมด 52,427 เม็ด
ทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่าได้ไปรับยาบ้ามาจาก อ. เขมราฐ จ. อุบลราชธานี โดยมีนางแอ๋ว ชาวอ. กันทารารมย์ จ. ศรีสะเกษ เป็นคนสั่งให้ไปรอรับยาบ้าจำนวน 200 ลูก เป็นจำนวน 1,200,000 เม็ด บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลเขมราฐและนำไปส่งลูกค้าตามจุดต่างๆที่นางแอ๋วสั่งการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม, ร้อยเอ็ดกาฬสินธุ์, บุรีรัมย์สุรินทร์ศรีสะเกษอำนาจเจริญโดยนางแอ๋วได้ติดต่อซื้อขายยาบ้ากับเจ๊ชาวลาว จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ. วาปีปทุมดำเนินคดีต่อไป
ด้าน ผู้กองเชอรี่ หรือ ร.ต.อ.สมควร ปริตวา รอง สว.สส สภ.วาปีปทุม ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ซึ่งกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ย้อนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันนั้นมีสายรายงานว่า มีการนัดหมายส่งยาเสพติดที่วัดแห่งหนึ่ง ในอ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ชุดสืบสวน สภ.วาปีปทุม จึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการจับกุม โดยสถานที่ทำการจับกุมเป็นวัด ซึ่งมีสถานที่โล่งแจ้ง หากเจ้าหน้าที่ลงไปจับกุมผู้ต้องหาจะไหวตัวทัน จึงได้วางแผนปลอมตัวเป็นพระ เข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัด นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยขออนุญาติเจ้าอาวาสวัดแล้ว ก่อนจะทำกิจวัตรเหมือนพระสงฆ์จริง เช่น การทำความสะอาดวัดด้วยการกวาดใบไม้ในลานวัด นั่งในกุฏิคล้ายปฏิบัติธรรม เมื่อผู้ต้องสงสัยขับรถเข้ามาเข้ามาภายในวัด จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมอย่างง่ายดาย
สำหรับการปลอมตัวเป็นพระ ตนเคยปลอมตัวเป็นพระเพื่อจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดเมื่อปี 2561 โดยเพื่อนร่วมงานชุดจับกุมด้วยกันบอกว่า รูปร่างหน้าตาเหมือนพระ น่าจะปลอมตัวเป็นพระ เพื่อเข้าทำการจับกุม โดยครั้งนี้ตนลงทุนโกนคิ้วให้เหมือนพระจริง ๆ ด้วย ส่วนจีวร สบง อังสะ ตนก็ลงทุนซื้อเก็บไว้ในที่ทำงาน นอกจากนี้ ตนยังเคยปลอมตัวเป็นไร่ชาวนา เป็นครู ภารโรง เพื่อแฝงตัวเข้าไปจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งแล้วแต่สถานการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัยประกอบอาชีพอะไร ส่วนผู้บังคับบัญชาก็ชื่นชมในความสามารถของตน ซึ่งทุกครั้งที่ปฏิบัติภารกิจก็จะเต็มที่ทุกงาน เพื่อให้ยาเสพติดหมดสิ้นไป
ขอบคุณ
ทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ทีวี
www.policetv.tv