เป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Poramet Misomphop หรือ "เมศ เจ้าชายน้อย" หนุ่มจิตอาสาใจบุญ ได้เผยเรื่องราวชีวิตของคุณตาสมหวัง วัย 84 ปี ที่ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในตึกร้างแถวถนนนวลจันทร์ ไม่มีภรรยาและลูกคอยดูแลยามแก่เฒ่า ชีวิตความเป็นอยู่สุดแสนที่จะลำบาก เพราะที่ตึกร้างแห่งนั้นไร้ไฟฟ้า-น้ำประปา นั่งดูเหม่อลอยผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา รอคอยว่าวันนี้จะได้กินข้าวไหม เวลาจะอาบน้ำแต่ละครั้งต้องหิ้วกระป๋องเดินไปขอน้ำประปาจากคนละแวกตึกร้าง แถมยังไร้สิทธิการเยียวยาต่างๆจากทางภาครัฐ เพราะไม่มีบัตรประชาชน ซึ่งทางผู้โพสต์ได้มีการระบุข้อความดังนี้
"น้ำตา ตาสมหวัง ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะหลั่งน้ำตา มันอึดอัดคับแค้นใจ น้อยใจ ผมคิดอยู่ว่า ถ้าวันนึงผมตายในตึกร้างที่นี่จะมีใครรู้ไหม ปลายทางของชีวิตของคุณ คุณคิดว่าชีวิตของคุณจะเป็นยังไง แล้วคุณคิดว่าชีวิตคุณตอนนี้ลำบากไหม ลองหันกลับมามอง 1 ชีวิตนี้ ชีวิตของคุณตาสมหวัง วัย 84 ปีต้องต่อสู้ดิ้นรนมาตั้งแต่เด็ก ต้องอาศัยใบบุญเป็นเด็กวัด เร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ ชีวิตวัยอดีตมันช่างแสนสาหัสยิ่งนัก จนสุดท้ายตัวเองกลับกลายเป็น คนแก่ไร้ลูกไร้เมีย มาอาศัยอยู่ในตึกร้างที่ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ภายในบนถนนนวลจันทร์ กรุงเทพมหารนคร เมืองแห่งความเจริญแห่งนี้
ทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหมือนรอความตาย แข้งขาที่เคยมีแรงเดินก็ถูกรถจักรยานชน นั่งดูเหม่อลอยผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา รอคอยว่าวันนี้จะได้กินข้าวไหม เวลาจะอาบน้ำทีนึง ต้องหิ้วกระป๋องใบเล็กๆประครองตัวเองด้วยไม้เท้า เดินไปขอน้ำประปาจากคนละแวกตึกร้าง พอได้น้ำมาสัก 1 ถัง ก็จะเอาผ้าขาวม้าเก่าๆที่มีชุบน้ำให้เปียก นำมาเช็ดตามลำตัว หวังได้แค่คายร้อนเท่านั้น เวลาจะคอกระหายน้ำ ก็หันไปหยิบขันตักน้ำประปาที่ไปขอจากคนละแวกนั้น มาดื่มกินพอกระหาย
ชีวิตตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่ได้รับเงินผู้สูงอายุ ไม่มีบัตรผู้สูงอายุ ไม่มีสิทธิการรักษา ไม่ได้สวัสดิ์การภาครัฐ ไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ชีวิตนี้มีเพียงลมหายใจที่รอวันจะหมดลม เวลานี้มีเพียงคนละแวกใกล้เคียง คอยหยิบยื่นข้าว ช่วยเหลือได้แค่ตามกำลังที่แต่ละคนมีเท่านั้น ระหว่างที่เมศลงพื้นที่ไปเยี่ยม คุณตาสมหวัง ดีใจมากและได้พูดว่า "ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนรู้เรื่องผม ผมดีใจเหลือเกินที่คุณมาเยี่ยม" มันเป็นคำพูดสั้นๆ แต่มันเป็นคำพูดที่เปล่งเสียงออกมาทั้งน้ำตา และคุณตายังพูดอีกว่า "ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะหลั่งน้ำตา มันอึดอัด คับแค้นใจ น้อยใจ ผมคิดอยู่ว่า สักวันนึงถ้าผมตายในตึกร้างที่นี่จะมีใครรู้ไหม"
เบื้องต้น เมศได้ให้เงินส่วนตัวกับทางคุณตาเอาไว้เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง คุณตาไม่มีบัตรประชาชน จึงไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ หากใครต้องการช่วยเหลือคุณตา สามารถเดินทางไปที่ถนนนวลจันทร์นำสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อช่วยเหลือคุณตาได้ตลอดเวลา นี่ล่ะครับชีวิตจริงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครเมืองแห่งความเจริญ ต้องขอขอบคุณชาวบ้าน พลเมืองดีในซอยที่ช่วยเหลือคุณตาตามกำลังที่มี และขอขอบคุณพลเมืองดีที่แจ้งเรื่องคุณตาเข้ามาทางกล่องข้อความส่วนตัว"
ขอบคุณ FB : Poramet Misomphop