นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าปัจจุบันมีกระแสการลักลอบจำหน่ายเห็ดเมา หรือ เห็ดขี้ควาย
บางกลุ่มนำมากินเพื่อให้เกิดอาการมึนเมา นิยมนำไปปั้นผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกฮอล์จะเป็นตัวทำละลายให้พิษออกฤทธิ์เร็วและรุนแรงมากขึ้น ฤทธิ์ในทางเสพติด ในเห็ดขี้ควายมีสารออกฤทธิ์ทำลายประสาทอย่างรุนแรง คือ ไซโลซีน และไซโลไซบีน ผสมอยู่ ซึ่งออกฤทธิ์หลอนประสาท เมื่อกินเข้าไปจะทำให้มีอาการมึนเมา ประสาทหลอน ไม่สามารถลำดับทิศทางได้ เห็นภาพ แสง สีต่างๆ ลวงตา มีความคิดและอารมณ์เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหากกินมากเกินไปอาจจะทำให้ควบคุมสติไม่อยู่ เกิดประสาทหลอนอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจติดขัดและอาจเสียชีวิตได้
เห็ดเมา หรือ เห็ดขี้ควาย เป็นเห็ดพิษขึ้นอยู่ตามกองขี้ควายแห้ง พบได้ทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย สีของเห็ดจะมีสีเหลืองซีด คล้ายสีฟางแห้ง บนหัวของร่มจะมีสีน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำ บริเวณใกล้ตัวร่มจะมีแผ่นเนื้อเยื่อบางๆ สีขาว แผ่ขยายออกรอบก้าน แผ่นนี้มีลักษณะคล้ายวงแหวน ลักษณะของเห็ดที่สมบูรณ์และโตเต็มที่ตรงบริเวณหมวกจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6.5 – 8.8 ซม. ความสูงของลำต้นประมาณ 5.5 – 8 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.8 – 1.0 ซม. ประเทศไทย จัดให้เห็ดเมาหรือเห็ดขี้ควาย เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522
ผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 -15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,500,000 บาท ผู้เสพจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอรับคำปรึกษาได้ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จ.ปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง
ที่มา สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
.