เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 64 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ในสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) บางเขน กรุงเทพฯ ว่าที่ผ่านมามีการตรวจผู้ต้องกักตามมาตรฐาน โดยวันที่ 6 มี.ค. 64 ตรวจผู้ต้องกักชาวเนปาล 1 ราย ไม่พบเชื้อ แต่เมื่อตรวจซ้ำวันที่ 11 มี.ค. พบว่าติดเชื้อ โควิด-19 และในวันเดียวกันยังตรวจพบผู้ต้องกักเดิมติดเชื้ออีก 2 ราย และผู้ต้องกักรายใหม่ที่ย้ายมาจากสุไหงโกลกก็ติดเชื้ออีก 6 ราย
เมื่อมีการสอบสวนโรคเพิ่มเติม ในวันที่ 13 มี.ค. มีการตรวจผู้ต้องกักที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากกลุ่มที่มาจากสุไหงโก-ลก 137 คน พบติดเชื้อ 40 คน รวมกับการตรวจผู้ต้องกักแรกรับ 129 ราย พบติดเชื้อ 12 ราย จากนั้นวันที่ 15 มี.ค. มีการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ต้องกักชาวเนปาล 44 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำรวมกับเจ้าหน้าที่ 14 ราย พบติดเชื้อ 16 ราย
ส่วนการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในสถานกักกัน โดยตรวจผู้ต้องกักและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยังไม่ได้รับการตรวจในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยวันที่ 18 มี.ค. ตรวจ 501 ราย พบติดเชื้อ 19 ราย วันที่ 19 มี.ค. ตรวจ 549 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย และเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ตรวจ 506 ราย พบติดเชื้อ 297 ราย ซึ่งตัวเลขของวันที่ 20 มี.ค. ยังไม่ได้รายงานต่อ ศบค.
สรุปการตรวจเชื้อวันที่ 6-15 มี.ค. ตรวจ 333 ราย พบติดเชื้อ 77 ราย คิดเป็น 23.1 % ส่วนวันที่ 18-20 มี.ค.ตรวจ 1,556 ราย พบติดเชื้อ 318 ราย คิดเป็น 20.43% รวมทั้งหมดเป็น 395 ราย
สำหรับการป้องกันควบคุมโรคได้มีการแยกผู้ต้องกักที่ติดเชื้อออกจากผู้สัมผัส งดการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักระหว่างห้อง งดรับผู้ต้องกักรายใหม่ ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่สโมสรตำรวจจำนวน 120 เตียง แต่สามารถขยายได้ถึง 250 เตียง และเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ต้องกัก ขณะนี้ฉีดแล้วมากกว่า 70 คน และกรมควบคุมโรควางแผนดำเนินการตรวจซ้ำใน 7 วัน และ 14 วันต่อไป ทั้งนี้ ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ การให้อยู่โรงพยาบาลสนามถือว่ามีความเหมาะสม เมื่อครบระยะเวลาก็ไม่สามารถแพร่โรคต่อได้ จะผลักดันกลับประเทศตามกฎหมาย