สืบเนื่องจากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่งได้โพสต์ตัดพ้อด้วยความน้อยใจว่า เธอตั้งใจที่จะไปบวชชีพราหมณ์ ที่วัดเทพหิรัณย์ในอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท แต่เมื่อไปถึงสถานที่แล้ว และเธอได้ให้แฟนหนุ่มไปสอบถามรายละเอียดเพื่อที่เธอจะได้ทำการเตรียมแล้ว แต่พระลูกวัดกลับไม่ให้ความสนใจ แถมยังเดินหนี แต่ในระหว่างนั้นมีคนขับรถเบนซ์เข้ามา ทางพระลูกวัดได้เข้าไปต้อนรับอย่างดี ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม - สาวเหลืออดขอแฉ อยากบวชชีแต่วัดดังชัยนาทไม่ต้อนรับ ต่างกับคนรวยขับเบนซ์
ล่าสุดได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัดเทพหิรัณย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นร้อนดังกล่าวว่า "ชี้แจงกรณี โพสต์ข้อความว่า คนจนบวชชีไม่ได้ เรียนท่านแอดมิน และทุกท่านที่เป็นสมาชิกกลุ่ม กระผมในนามคณะกรรมการวัดเทพหิรัณย์ ขอชี้แจงกรณีมีผู้โพสต์ว่า "วัดเทพหิรัณย์คนจนบวชไม่ได้" นั้น กรณีดังกล่าวทางวัดได้ตรวจสอบและสอบถามพระท่านแล้วปรากฏว่ามีผู้มาถามจริง แต่พระท่านไม่ได้แสดงกิริยาหยาบคายใดๆ และไม่ได้แสดงอาการไม่ต้อนรับอย่างใดตามที่ลงข้อความ แต่ได้ความจริงดังนี้ว่า
“...พระภิกษุต๋อง ท่านกำลังทำความสะอาดกุฏิท่านเจ้าอาวาสอยู่ขณะนั้น ได้มีผู้ชายมาสอบถามว่า หลวงพี่แฟนผมจะมาขอบวชชีพราหมณ์ช่วงเดือนเมษายน 2564 เป็นระยะเวลา 7 วัน...” พระภิกษุต๋อง ท่านจึงได้พูดขึ้นว่า “...โยมรอพบหลวงปู่เดี๋ยวหลวงปู่ก็ลงจากกุฏิแล้ว โยมไปรอที่ม้าหินอ่อนที่ข้างกุด(กุฏิ)หลวงปู่...”
ในระหว่างนั้นมีญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์วัด ชื่อโยมยิ้ม ได้ขับรถกระบะอีซูซุ นำไม้กวาดเพื่อใช้กวาดลานวัดมาถวายวัด พระภิกษุต๋องที่กำลังทำความสะอาดกุฏิหลวงปู่จึงเดินออกไปบอกกับโยมว่า พระขอรับไม้กวาดเพื่อจะเอาไว้กวาดวัด โยมยิ้มที่เป็นลูกศิษย์ได้พูดขึ้นว่าหลวงพี่แกะเอาไปได้เลย โดยไม่ได้มีเหตุการณ์ที่พระเดินเข้าไปต้อนรับคนขับรถเบนซ์แต่อย่างใด
หลังจากนั้นพระท่านก็ไปทำความสะอาดกุฏิจนเสร็จ และได้มองไปที่รถยนต์ของโยมผู้ชายปรากฏว่ารถยนต์ที่ขับมาจอดลานจอดรถไม่อยู่แล้ว พระภิกษุต๋อง ท่านคิดว่าโยมคงไปหาข้าวกิน พระท่านจึงเดินกลับกุฏิของท่านที่หลังวัด ซึ่งตามความเป็นจริงมีอยู่เพียงเท่านี้ ส่วนรายละเอียดการชี้แจงข้ออื่นๆได้ลงให้สาธราณะชนแล้วตามภาพที่แนบมาด้วยแล้ว
ขอเรียนให้ทราบว่าทางวัดไม่ได้เลือกปฏิบัติยากดีมีจนหลวงปู่ท่านเมตตาทุกคน แม้กระทั้งชาวนาชาวไร่ต้องการมาถือศีลปฏิบัติธรรมสร้างบุญบารมีท่านก็เมตตาหมดครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ"