ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม โพสต์ภาพเหตุการณ์หลังจากที่เจ้าตัวเข้าไปชมภาพยนต์ในโรงหนังแห่งหนึ่ง ก่อนเจอป้ายข้อความที่เขียนไว้โดยมีเนื้อหาระบุว่า "บัตรชมภาพยนต์ ซื้อแล้ว ไม่รับคืน ยกเว้นกรณี รอบฉายนั้น มีผู้ชมไม่ถึง 4 ท่าน" จนกระทั่งเจ้าตัวนึกย้อนไปถึง 3 บทเรียนครั้งสำคัญชีวิต
ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า... ไปดูหนังเมื่อวาน เห็นป้ายนี้แล้วคิดถึงอะไรหลายอย่าง คิดถึง เรื่องที่ตัวเองเคยเจอ และเพื่อนที่รู้จักกันก็เจอ
เรื่องที่1 ผ่านไปนานละ ไม่อยากพูดถึง และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่น ผมนะ สอนสูตรอาหารให้หมดละ สอนทุกเม็ด หมดไส้หมดพุง เรียนเสร็จ...ขอเงินคืน บอกไม่อร่อย จะเอาเงินคืน ผมถามหน่อย...ใครจะคืน? ไปเที่ยวอาบอบนวด เอาแล้ว ถอดเสื้อผ้าแล้ว ลงมาบอก เอาไม่มันส์ จะขอเงินคืน คุณว่า...อาบอบนวดเขาจะคืนคุณมั้ย?
2 เรื่องที่สอง เพื่อนผมทำธุรกิจ หม้อทอดไร้น้ำมัน มีราคาโปรโมชั่น คนสนใจมากมาย มารับไปปล่อยต่อ บางคนเอาไป10ใบ บางคนเอาไป20ใบ ขายไม่ได้มาขอ คืนของกับเพื่อนผม ขอเงินคืน ใครจะให้คุณ? ไม่คิดบ้าง? คุณไปซื้อทุเรียนจากสวนมา มานั่งขายข้างถนน ขายไม่ดีขายไม่ได้ ทุเรียนเน่า คุณไปขอเงินคืน จากสวนทุเรียนได้มั้ย?
3 คล้ายกับเรื่องผมเลย เพื่อนคนนึง ทำแฟรนไชส์ สอนขั้นตอนการทำงานหมด อบรมวิธีการทำงานครบ เซ็นสัญญาแล้ว อยู่ดีๆ มาขอคืนของยกเลิกสัญญา ผมถามจริงๆ...ใครจะคืน? เวลาคุณจองตั๋วเครื่องบิน คุณจ่ายเงินก่อน แต่คุณไม่ไปเอง ไม่ขึ้นเครื่องบินเอง ไปไม่ทันเครื่องเอง คุณไปเรียกร้อง ขอเงินเขาคืนได้มั้ย?
เชื่อมั้ยว่า คนประเภทนี้มีเต็มสังคม มีทุกวงการ เห็นแก่ตัวเอง ผิดแต่คิดว่าตัวเองถูก จะเอาแต่ได้ เสียไม่ยอม ถามจริงๆ เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ ไม่ยอมรับความจริงในสังคม จะใช้ชีวิตอยู่กับสังคมได้ยังไง จะไปทำธุระสำเร็จได้ยังไง? ยกตัวอย่างนะ ไปดูหนังแล้วไม่สนุก คุณขอเงินเขาคืนได้มะ? ไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วไม่อร่อย จะไม่ยอมจ่ายเงิน คุณว่าเขายอมมั้ย?
คนเราอะ แม่xต้องยอมรับความจริง ไม่ใช่จะเอาแต่ได้อย่างเดียว จะเอาแต่ใจตัวเองอย่างเดียว อย่างเรื่องนี้เหมือนกัน ซื้อตั๋วหนังแล้ว คุณไม่มาเอง ไม่ดูเอง ใครเขาจะคืนเงินคุณ?