จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยเอกสารงบซื้อรถขุดเจาะน้ำบาดาล 105 ล้านบาท ของทางภาครัฐ แต่เมื่อนำมาเทียบของ พิมรี่พาย ที่ใช้เงินส่วนตัวช่วยเหลือชาวบ้านใช้งบแค่ 190,000 บาทเท่านั้น จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวนี้ว่า ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อบาดาลที่พิมรี่พาย ไปขุดบ่อบาดาลใน อ.ทรายมูล จ.ยโสธร พบว่าเป็นบ่อบาดาลที่มีความลึก 40 เมตร ใช้ท่อขนาด 6 นิ้ว มีแผงโซลาเซลล์ 4 แผง 340 วัตต์ ใช้เครื่องสูบน้ำหนึ่งแรงครึ่ง สูบน้ำได้ 4 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และสูบน้ำลงสระให้เกษตรกรรายหนี่ง มีการปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงวัว เป็นพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เกษตร
แต่เมื่อเทียบบ่อบาดาลที่พิมรี่พายขุด มีขนาดเล็กกว่าของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล หรือส่วนราชการหลาย 10 เท่า โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะมีการเจาะลึกลงไป 300 – 400 เมตร สูบน้ำได้ 40 – 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ใช้แผงโซลาร์เซลล์ 16-20 แผง กำลังวัตต์ 4-5 พันวัตต์ต่อ 1 จุด
ส่วนเรื่องคุณภาพจะมีความแตกต่างกัน โดยบ่อบ้ำบาดาลของ พิมรี่พาย ดูแล้วอาจไม่ได้มาตรฐาน ปากบ่อก็ไม่ได้ซีล ถังเก็บน้ำก็เป็นแบบชั่วคราว ชาวบ้านใช้ได้เพียง 1-2 ครัวเรือนเท่านั้น บ่อบาดาล ก็มีขนาดเล็กกว่าของกรมฯ และหน่วยราชการหลายสิบเท่า ที่สำคัญจากการสอบถามผู้นำชาวบ้านผู้นำชุมชน พบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าว ไม่ได้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง ยังมีน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินอยู่มาก ซึ่งชาวบ้านก็มีการขุดบ่อน้ำบาดาลใช้เอง แต่ก็ขอชื่นชม พิมรี่พาย ที่มาช่วยเหลือชวนบ้าน แต่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาราคาที่แตกต่างกันเพราะคุณภาพของบ่อ ไม่เกี่ยวกับการทุจริตสามารถตรวจสอบได้