เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงกรณีดราม่า หลังจากที่ พิมรี่พาย ใช้เงินส่วนตัวช่วยเหลือชาวบ้านในการขุดเจาะน้ำบาดาลโดยใช้งบแค่ 190,000 บาทเท่านั้น แตกต่างกับของทางภาครัฐที่มีงบประมาณสูงกว่า
โดย นายวราวุธ เผยว่า แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน บางพื้นที่ขุดเป็น 100 เมตรจึงเจอน้ำบาดาล แต่บางพื้นที่ขุดเพียง 40-50 เมตรแล้วเจอน้ำบาดาล ส่วนในพื้นที่ภาคกลางขุดอย่างต่ำ ต้องลึกถึง 300-400 เมตร โดยค่าใช้จ่ายก็มีราคาในการขุดแตกต่างกันไป หากขุดตื้นราคาอยู่ในหลักแสนบาท หากขุดลึกลงไปถึง 400 เมตร ราคามากกว่าหลักแสนบาทแน่นอน เพราะคุณภาพและมาตรการต่างๆที่จะต้องมีเทคนิคเข้ามาช่วย ทั้งรถเจาะ หรือเครื่องกรองน้ำที่จะต้องมากรองน้ำที่อาจมีโลหะหนักอย่างสนิมเหล็ก ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่ากรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีราคากลางที่สำนักงบประมาณกำหนดเอาไว้ว่าอุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำบาดาลแต่ละอย่างมีราคาเท่าไหร่ สามารถตรวจสอบได้ หากพื้นที่ไหนมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ก็ยื่นเรื่องเข้ามาเพื่อดำเนินการ โดยไม่กังวลเสียงวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบราคา เพราะสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการนั่นครอบคลุมประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำทำการเกษตร
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนขุดบาดาลไปได้ก่อน จากนั้นทำเรื่องขอทีหลัง อาจจะเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการขุดที่มีความลึกเกิน 15 เมตร จะต้องได้รับการอนุญาตจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ที่อาจเจาะแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา หรืออาจมีผลต่อสภาพของชั้นใต้ดิน จึงต้องสำรวจและขออนุญาตก่อนเสมอ หากตรวจสอบพบผู้ลักลอบขุดบ่อบาดาล กระทรวงฯจะดำเนินการตรวจสอบและปราบปราม เนื่องจากกระทบกับชั้นน้ำใต้ดิน ที่อาจส่งผลทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างมีนัยยะ อาจส่งผลให้แผ่นดินทรุดได้