วันที่ 7 เม.ย.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า สถานการณ์ทั่วโลกเห็นได้ชัดว่าระบาด
ซ้ำกันรุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียที่มีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างเร็วมาก และติดเชื้อรายวันมากกว่าระลอกแรก ของไทยเรานั้น...ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของการระบาด จะได้ไม่เข้าใจกันผิด โรคระบาดนั้นเราสังเกตและแบ่งได้เป็น 4 ระยะหลักๆ ได้แก่
ระยะ 1: เดิมพื้นที่ไม่มีโรค แต่มีคนติดเชื้อจากนอกพื้นที่เข้ามา
ระยะ 2: คนที่ติดเชื้อจากนอกพื้นที่นั้นนำมาแพร่ให้แก่คนในพื้นที่
ระยะ 3: คนในพื้นที่นั้นมีการติดเชื้อแพร่เชื้อให้แก่กันไปเรื่อยๆ
ระยะ 4: การระบาดค่อยๆ ลดลง จะจากมาตรการที่ดำเนินการควบคุมป้องกัน หรือติดกันหนักจนไม่มีให้ติดแล้วก็ตาม
พอเราเข้าใจกันตามนี้ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เราเจอกันมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้น มันคือ"การระบาดระยะ 3" ส่วนการจะบอกว่าตอนนี้ระบาดกันระลอกไหน หนึ่ง สอง สาม สี่ ใหม่ ใหม่กว่า ใหม่ที่สุด หรือระลอกสองของระลอกใหม่ ที่ปั่นกันมาตลอดแบบไร้สาระนั้น มักเป็นผลมาจากการระบาดระยะ 3 ที่มีการแพร่เชื้อติดเชื้อกันมากและต่อเนื่องจนติดกันงอมแงม
ดังนั้นข่าวในโซเชียลประเภทที่กระพือว่า คนติดเชื้อกันในตอนนี้เข้าเกณฑ์ของระลอกสามนั้น ขอให้แยกแยะให้ดี เพราะอาจสับสนเรื่อง"ระยะ 3" มาปนกับ"ระลอก" ได้ สำหรับสถานการณ์ในเมืองไทย การระบาดรุนแรง ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เพราะติดเชื้อกระจายไปทั่ว ไม่ได้จำเพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากการพบความเสี่ยงทั้งในตลาด โรงเรียน มหาลัย เรือนจำ สถานที่ประชุม สถานที่จัดกิจกรรมและการแสดง ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟต์ งานศพ ฯลฯ ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เวลาตะลอนท่องเที่ยวสังสรรค์พบปะกัน เลื่อนได้ควรเลื่อน งดได้ควรงด กิจการค้าขายสินค้า บริการ อาหารและเครื่องดื่ม ควรปรับรูปแบบบริการ ลดคน ลดเวลาสัมผัส และเน้นการขายให้นำกลับ หรือบริการถึงบ้าน
ถัดจากนี้ไป จะมีโอกาสกระจายไปมากขึ้น ทั้งงานแต่งงาน งานวัด งานบวช โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ขนส่งสาธารณะ และสถานพยาบาล ดังนั้นจึงขอให้เราช่วยกันป้องกันอย่างเคร่งครัด