บทความบนเว็บไซต์สถานีฯ เมื่อวันศุกร์ (16 เม.ย.) อ้างอิงผลสำรวจโดยกลุ่ม “อิทส์ นอท อะ คอมพลิเมนต์” (It’s Not A Compliment – INAC) ซึ่งสอบถามประชาชน 343 คน ที่เคยถูกล่วงเกินรูปแบบต่างๆ เช่น การตะโกนแซว การผิวปากเรียก การบีบแตรแซว การแสดงท่าทางคุกคาม และการสัมผัสร่างกายในที่สาธารณะ
ร้อยละ 91.4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเคยถูกล่วงเกินตามท้องถนน เป็นผู้หญิง และราว 1 ใน 4 ของจำนวนนี้เป็นผู้หญิงผิวสี โดยมีชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นชาวเอเชียใต้และชาวเอเชียตะวันออก
แม้การล่วงเกินตามท้องถนนจะลดลงในช่วงล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 แต่กลับมีการเหยียดเชื้อชาติเพิ่มขึ้น โดยผลสำรวจพบร้อยละ 6.1 ของผู้ตอบแบบสอบถามเผชิญการคุกคามที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มีพื้นเพเป็นชาวเอเชีย
ผลสำรวจนี้สอดคล้องกับรายงานของกลุ่มเอเชียน ออสเตรเลียน อัลลิแอนซ์ (AAA) ซึ่งระบุว่าโรคโควิด-19 ส่งผลให้ชาวออสเตรเลียเชื้อสายเอเชียเผชิญการเหยียดเชื้อชาติเพิ่มขึ้นในปีก่อน โดยอีริน ชิว จากกลุ่มฯ ระบุว่าผู้หญิงชาวเอเชียเผชิญการเหยียดเชื้อชาติมากที่สุดในร้านค้า ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า หรือตามท้องถนนขณะเดินอยู่
ที่มา xinhuathai