จากที่เมื่อช่วงเช้ามีรายงานออกมาแล้วว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ประจำวันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 เวลา 11.30 น. ซึ่งพบผู้ป่วยรายใหม่ 2,070 ราย ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 50,183 ราย หายป่วยแล้ว 30,189 ราย เสียชีวิตสะสม 121 ราย เพิ่มมาอีก 4 ราย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ได้แถลงถึงรายละเอียดผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายว่า
รายที่ 118 เป็นชายไทย 72 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯปฏิเสธโรคประจำตัว มีประวัติ 9-12 เมษายนนี้ไปที่จังหวัดภูเก็ต กระทั่ง13 เมษายนที่ผ่านมา มีอาการไอ ไข้เจ็บคอ และถ่ายเหลว
ต่อมาวันที่ 17 เมษายน อาการยังไม่ดีขึ้น จึงไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพบปอดอักเสบ จน วันที่18 เมษายน จึงพบว่าติดเชื้อโควิด 19 แล้วก็มีอาการเหนื่อยหอบ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตในเวลา 18:00 น. ของวันที่ 20 เมษายน
รายที่ 119 เป็นชายไทย 74 ปี อยู่ที่สงขลาโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงแล้วก็โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ รายนี้มีประวัติว่า 6 เมษายน ไปสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 10 เมษายนนี้มีผลต่อเชื้อ กระทั่ง 11 เมษายนได้ไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
กระทั่ง 15 เมษายน เอกซเรย์พบว่ามีปอดอักเสบมากขึ้น จนวันที่ 12 เมษายนหัวใจหยุดเต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการกู้ชีพก็พบว่าเสียชีวิตในวันเดียวกันนั้นในเวลา 5:55 น.
รายที่ 120 เป็นหญิงอายุ 29 ปี รายนนี้เรียกได้ว่าอายุยังน้อย มีโรคประจำตัวคืออ้วน อยู่ที่สมุทรปราการประวัติคือ 10 เมษายนสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า 12 เมษามีอาการไอ เสมหะหอบเหนื่อย
กระทั่ง 16 เมษายนตรวจพบเชื้อแล้วก็ 18 เมษายน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ต่อมาพบว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายนช่วงเช้า
รายที่ 121 เป็นชายไทยอายุ 83 ปีอยู่ที่สมุทรปราการ มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และ หัวใจ แล้วก็มีประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า 8 เมษายนเข้ารับการรักษา พร้อมทั้งได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด ซึ่งระหว่างนั้นมีอาการไอแล้วก็มีเสมหะ
กระทั่งวันที่ 9 เมษายน ผลออกมาปรากฏว่าพบเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ต่อมาวันที่ 10 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น มีอาการปอดอักเสบรุนแรง แล้วก็ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายน ช่วงเที่ยงคืน