นักข่าวช่องดัง ไลฟ์สดเบ่งใส่จนท. แซงคิวเตียงโควิด โวยจะเอาห้องพิเศษ
นักข่าวช่องดัง ไลฟ์สดเบ่งใส่จนท. แซงคิวเตียงโควิด โวยจะเอาห้องพิเศษ เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องนักข่าวรายหนึ่งซึ่งระบุว่าอยู่ในสังกัดชื่อดัง ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอระบุว่าตัวเองป่วยโควิด 19
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องนักข่าวรายหนึ่งซึ่งระบุว่าอยู่ในสังกัดชื่อดัง ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอระบุว่าตัวเองป่วยโควิด 19 แทนที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมารับตัวไปรักษา แต่กลับติดต่อไปยังคนในวงการสีกากีที่รู้จัก เพื่อขอให้ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ
แถมพอไปถึงโรงพยาบาลก็เรียกร้องห้องพิเศษ แต่พอไม่ได้ก็โมโหโวยวาย และยังมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่เพราะตัวเองสั่งของจากร้านสะดวกซื้อมากิน ก่อนจะไลฟ์ด่าเจ้าหน้าที่ ต่าง ๆ นานา จนทางโรงพยาบาลต้องโทร. ไปรายงานหัวหน้าของนักข่าวคนดังกล่าว ถึงได้ยอมสงบลง นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่านักข่าวคนดังกล่าวระบุว่า "แซงคิวไปร้อยกว่าคนเอง" อีกด้วย
หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนก็ตั้งคำถามถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนของนักข่าวคนนี้ และการกระทำที่ทำให้เจ้าหน้าที่วุ่นวาย ก่อนหน้านี้นักข่าวคนดังกล่าวก็โพสต์ข้อความรีวิวการใช้ชีวิตในโรงพยาบาล โดยระบุว่าโรงพยาบาลไม่มีน้ำดื่มให้ ต้องสั่งน้ำจากร้านสะดวกซื้อ แต่ต่อมาทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็สั่งห้ามนำการสั่งสินค้าจากภายนอกเข้ามาโดยเด็ดขาด แต่ก็ยังไม่มีน้ำให้กิน ต้องกรอกน้ำจากห้องน้ำกินข้าว กินยา ประทังชีวิต
จากนั้นทางโรงพยาบาลได้ออกมาชี้แจงว่ามีน้ำแจกทุกห้อง ไม่พอก็ขอเจ้าหน้าที่ได้ แต่นักข่าวคนนี้สั่งน้ำมาจากร้านสะดวกซื้อ เมื่อไม่มีน้ำกินก็ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นคนไข้ห้องเดียวที่มีปัญหาเรื่องไม่ได้น้ำ เพราะไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ แถมยังบ่นตลอด เตียงแข็ง อาหารไม่อร่อย ให้น้อย ทั้ง ๆ ที่มีคนไข้เยอะมาก แต่ด้วยความที่เป็นนักข่าว มีผู้ใหญ่ฝากมาก็รับดูแลในห้องพิเศษ
ต่อมา นักข่าวคนดังกล่าวออกมาปฏิเสธทุกเรื่องว่าไม่เป็นความจริงเลย เมื่อตนรู้ตัวว่าติดโควิด 19 ก็พยายามติดต่อโรงพยาบาล โดยมีพี่ที่เคารพคนหนึ่งช่วยเหลือจนมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์เอราวัณ มารับตัวไปส่งที่โรงพยาบาลกลาง
เมื่อมาถึงไม่ได้ห้องพิเศษ แต่ตนนอนรวมกับคุณลุงอีกท่าน ทุกวันนี้ตนก็ช่วยดูแลคุณลุงท่านนี้ด้วย ส่วนเรื่องการสั่งของจากร้านสะดวกซื้อนั้น นักข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้มีพยาบาลมาแนะนำบอกว่าให้ของมาส่งที่เคาน์เตอร์พยาบาลได้ หลังจากนั้นพยาบาลจะนำมาส่งต่อให้คนไข้
ส่วนเรื่องน้ำดื่มที่เป็นประเด็นดราม่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตอนแรกที่เข้ารับการรักษานั้น ไม่มีน้ำดื่มเพียงพอให้กับผู้ป่วย ตนจึงต้องซื้อมาเอง ล่าสุดทางโรงพยาบาลมีน้ำให้กับผู้ป่วยทุกคนแล้ว อยากจะขอให้สังคมเห็นใจ ว่าตนเองไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่สื่อโซเชียลกล่าวหา
ขอบคุณที่มา : เที่ยงวันทันเหตุการณ์