นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม แถลงชี้แจงกรณีในโลกโซเชียลตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวันหมดอายุของวัคซีนซิโนแวคที่นำเข้าจากประเทศจีนว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกัน เบื้องต้นวัคซีนซิโนแวค นำเข้ามา 2 ล้านโดส แบ่งเป็น ลอตแรก 2 แสนโดส, ลอตที่สองจำนวน 8 แสนโดส และลอตที่สามอีก 1 ล้านโดส และในวันนี้ (24 เม.ย.) ลอตที่ 4 อีก 5 แสนโดส
ช่วงแรกลักษณะกล่องแพคเกจได้เคลมอายุยาไว้ 3 ปี นับจากวันผลิต แต่เนื่องจากเมื่อมาถึงที่องค์การเภสัชกรรมของไทย ได้พิจารณาข้อมูลเอกสารประกอบให้อายุยาแค่ 6 เดือนเท่านั้น วัคซีนที่มาช่วงแรกมา 2 แสนโดส สลากจึงเป็น 3 ปี พอได้เห็นดังกล่าว ก็สอบถามไปยังบริษัทซิโนแวค แต่เนื่องจากความต้องการแต่ละประเทศเยอะมาก ทางซิโนแวคแจ้งว่าแก้ให้ไม่ไหว จึงยืนกรานขอเคลมอายุไว้ 3 ปีตามเดิม ทางองค์การเภสัชกรรมจึงแก้ไขด้วยการใช้สติ๊กเกอร์ของ อภ.ปิดทับทั้ง 4 ด้าน แต่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดูรายละเอียดของวัคซีนได้ และยืนยันว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นได้รับความเห็นชอบจาก อย. แล้ว โดยยืนยันเป็นความตั้งใจดีของหน่วยงานราชการที่ต้องการให้ประชาชนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ไม่นำวัคซีนหมดอายุมาฉีดให้ประชาชนเรื่องนี้อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 964,825 โดส ใน 77 จังหวัด แยกเป็น เข็มแรก 834,082 โดส และเข็มที่สอง 130,743 โดส ซึ่งหลังจากได้รับมอบวัคซีนจากผู้ผลิตแล้ว มั่นใจว่าจะมีศักยภาพที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ 70% ของประเทศ หรือราว 50 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมยอมรับว่าแนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในเวลานี้ ยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะต้องจับตาอีก 2-3 วันนี้ และหากครบ 14 วัน นับแต่วันที่มีการประกาศข้อกำหนดเรื่องมาตรการ สัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาว่าจำเป็นต้องคงมาตรการเดิมไว้ หรือเพิ่มมาตรการอีกหรือไม่ เพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว
ขอบคุณ INN