เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature ได้แชร์ข่าวพร้อมทั้งระบุข้อความว่า "#เหรียญต่างมุมมอง เรื่องนี้อย่างไรก็รอฟังคำชี้แจงจาก สน.พื้นที่อีกที ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไร"
โดยต้นเรื่องได้เล่าว่า "น้องชายวัย 23 ปีถูกตำรวจสายไหมรุมกระทืบยับ แจ้ง 4 ข้อหา จนพ่อแม่ต้องหากู้เงินมาให้ตำรวจเอาลูกออกจากโรงพัก ซึ่งคืนวันเกิดเหตุน้องชายไปส่งเพื่อนที่ซอยสายไหม แต่ขากลับน้องชายเห็นว่ามีรถตำรวจจอดอยู่ไกลๆ จึงเลี้ยวรถกลับเพราะว่าน้องชายไม่มีใบขับขี่
ก่อนหน้านี้น้องชายของเธอเคยถูกเรียกเก็บเงินอยู่บ่อยครั้ง คืนวันเกิดเหตุ น้องชายไม่มีเงินติดตัวเลย หลังจากนั้นตำรวจได้ขี่รถตามมาปาดหน้าและบอกว่าน้องชายของตนพยายามหลบหนี จึงจับกุมและรุมกระทืบตามภาพกล้องวงจรปิด
หลังจากนั้นตำรวจ ได้นำตัวน้องชายของเธอ ไปที่ สน.สายไหม เธอจึงตัดสินใจโทรให้พ่อและแม่ไปดูน้องชายที่โรงพัก สภาพที่เห็นน้องคือน้องชายตัวสั่นและบอกกับแม่ว่าอยากกลับบ้าน แม่จึงถามว่าเป็นอะไร น้องชายบอกว่า กลับบ้านก่อนจะเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ 4 ข้อหากับน้องชายของเธอ ซึ่งทางพี่สาวบอกว่าข้อหาที่ไม่มีใบขับขี่คือเรื่องจริง แต่ข้อหาที่บอกว่าน้องพยามทำร้ายถึงขั้นเอาชีวิตและหนีการจับกุมมันไม่ใช่ เพราะน้องชายมีแค่รถ จยย.ที่ขี่ไปกับโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง น้องชายของเธอจะไปทำร้ายตำรวจได้อย่างไง
ด้านภาพในกล้องวงจรปิดก็เห็นอยู่ว่าน้องชายอยู่คนเดียว ส่วนที่บอกว่าหลบหนี น้องชายบอกกับเธอว่า เขาพยามที่จะพยุงรถขึ้น แต่รถมันเกิดคันเร่งค้างจึงทำให้รถหมุน ข้อหาที่ว่าน้องชายมีสิ่งผิดกฎหมายก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะน้องชายไม่เคยเทำเรื่องแบบนั้น
คืนวันเกิดเหตุตำรวจก็ไม่ได้ตรวจสารผิดปกติในร่างกายด้วย โดยบอกกับพ่อแม่ว่าสภาพแบบนี้ไม่ต้องตรวจหรอก ดูจากภายนอกก็รู้ว่าใช่แน่ๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงตอนประมาณเที่ยงคืนพ่อกับแม่ถามกับตำรวจว่า ช่วยลูกชายยังไงได้บ้าง เพราะลูกชายยังเรียนอยู่
กระทั่งแม่บอกว่าตำรวจเรียกเงินค่าปรับ 20,000 บาท แม่จึงโทรไปขอกู้เงินกับเพื่อนบ้านเพื่อจะเอาลูกชายออกจากโรงพักให้เร็วที่สุด แต่แม่หาเงินมาได้แค่ 15,000 บาท ตำรวจจึงบอกว่ารอก่อนเดี๋ยวไปคุยกับนายก่อน
หลังจากนั้นตำรวจก็ตกลงที่ยอดเงิน 15,000 บาท แม่ก็โอนเข้าบัญชีที่ตำรวจให้มา 13,000 บาท และให้เงินสดไปอีก 2,000 บาทรวมเป็น 15,000 บาท ตำรวจจึงยอมปล่อยตัวลูกชาย โดยไม่มีหลักฐานการชำระเงิน มีแต่หลักฐานสลิปการโอนเงินเท่านั้น
จากนั้นจึงเดินทางกลับมาที่บ้าน และให้ลูกชายเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายบอกว่าเขาไม่ได้มีการต่อสู้ตำรวจแม้แต่นิดเดียว เขายกมือไหว้ตำรวจด้วยซ้ำ แต่ตำรวจก็ไม่หยุดกระทืบ และเขาก็ไม่ได้หลบหนีแต่คันเร่งรถจักรยานยนต์มันค้างจริงๆ ถ้าเขาหลบหนีตัวของเขาต้องขึ้นไปอยู่บนรถจักรยานยนต์
แม่ของเธอจึงได้ถามลูกชายต่ออีกว่า หลังจากมาโรงพักแล้วตำรวจได้ทำไรอีกหรือเปล่า ลูกชายบอกว่ามาถึงโรงพักก็ซ้อมอีก โดยตอนนั้นก็ยังใส่กุญแจมืออยู่ สำหรับเรื่องราวทั้งหมด แม่บอกว่าจนถึงทุกวันนี้ยังอยากจะขอความเป็นธรรม
เพราะว่าลูกชายของเธอต้องโดนกระทืบบาดเจ็บ แถมยังต้องมากู้หนี้ยืมสินเสียเงินอีก ทำไมตำรวจถึงทำกับลูกชายของเธอได้ขนาดนี้ ทุกวันนี้ลูกชายของเธอยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"