วันนี้ (4 พ.ค.2564) ศาลจังหวัดสระแก้วมีคำพิพากษาในคดีที่ นางกมลวรรณ ลุ่มมณี อายุ 46 ปี และ น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี สองแม่ลูก หลบหนีจากห้องเช่าเลขที่ 66/4 ชุมชนเมืองย่อยที่ 11 โรงฆ่าสัตว์เก่า ถนนเทศบาล 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ไม่ยอมเข้ารับการรักษา หลังทราบผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยหนีไปอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 และถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ก่อนส่งต่อมายัง รพ.สนาม อบจ.สระแก้ว จนกระทั่งพบว่า น.ส.กมลชนก รักษาหาย มีผลตรวจเป็นลบไม่พบเชื้อ จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เรือนจำมารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ น.ส.กมลชนก และมารดา ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ในข้อกล่าวหาจงใจฝ่าฝืนและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ,ขัดคำสั่งจังหวัดสระแก้วที่ 982/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 32 และกระทำผิด พรก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 โดย น.ส.กมลชนก ซึ่งมีคดีค้างเก่าเดิมและถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ฐานแอบอ้างชื่อและใช้บัตรประชาชนของ น.ส.ฉันทนา บุญทา ที่ทำบัตรประชาชนหาย ไปตรวจหาเชื้อแทนเพื่อปกปิดข้อมูลตนเอง
ซึ่ง ร.ต.ท.(หญิง)เกศรินทร์ วีระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว พนักงานสอบสวนคดีนี้ ได้ทำสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระแก้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศรีพัฒนสิทธิกร ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลสั่งจำคุกผู้เป็นแม่ฐานหลบหนี โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาและปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ส่วน น.ส.กมลชนก วิชาฉิม ลูกสาว ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากมีการทำผิดกรณีนำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้อื่นมาใช้และมีความผิดกฎหมายอาญา ม.188 ทำให้ศาลไม่รอลงอาญา ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่คิดจะปกปิดข้อมูลหรือหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและบุคคลอื่น ๆ อย่างมาก และน่าจะเป็นคดีแรกที่ศาลสั่งลงโทษจำคุกผู้หลบหนี ไม่เข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 ด้วย