กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำเอาสลดใจและตกใจไปทั่วโลก เมื่อมีรายงานการสูญเสียในวงการแพทย์ว่า ดร.ราเจนดรา คาปิลา (Dr. Rajendra Kapila) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ หนึ่งในบุคลากรคนสำคัญ ได้เสียชีวิตจากการติดโรคโควิด 19 ในประเทศอินเดีย หลังเดินทางมายังดินแดนภารตะได้ 2 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน
โดย ดร.ราเจนดรา ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ครบทั้ง 2 โดสในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินทางมายังปีะเทศอินเดีย ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ซึ่ง ดร.ราเจนดรา พร้อมด้วยภรรยาคือ ดร.ดีปตี ซาเซนา - คาปิลา เพิ่งเดินทางกลับไปยังประเทศอินเดีย และพักอาศัยในเมืองฆาซีบาด รัฐอุตตรประเทศ
ทั้งคู่ควรจะเดินทางกลับสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน แต่ ดร.ราเจนดรา กลับต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในเมืองเดลีอย่างกะทันหัน และหลังจากเข้าแอดมิทไม่นาน เขาก็ได้รับผลตรวจยืนยันว่าติดโควิด 19 เมื่อวันที่ 8 เมษายน แต่แล้วหลังจากรักษาตัวอยู่นานหลายสัปดาห์ ดร.ราเจนดรา ก็เสียชีวิตในโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ด้าน ดร.ดีปตี ภรรยาของ ดร.ราเจนดรา และเป็นผู้เชี่ยวชาญจุลชีววิทยา ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เธอได้ทำงานอยู่ในแล็บโควิด 19 ในนิวเจอร์ซีย์ และทำให้มั่นใจว่าในบ้านจะมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมาตลอด มันน่าตลกที่เรามาอินเดียแค่ 2 สัปดาห์ สามีของ
เธอก็ติดเชื้อที่นี่
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ได้ไว้อาลัยถึงการจากไปของบุคลากรคนสำคัญ โดยระบุว่า ดร.ราเจนดรา เปรียบเสมือนยักษ์ใหญ่ของวงการโรคติดเชื้อ เขาได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และความรู้ระดับตำนานของเขาก็เป็นที่ต้องการ เขามีความเฉียบแหลมที่ไม่ธรรมดาในการวินิจฉัยและรักษาแม้โรคติดเชื้อที่มีความซับซ้อนที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ดร.ราเจนดรา คาปิลา วัย 81 ปี เป็นศาสตราจารย์ด้านโรคติดเชื้อที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์ มาเป็นเวลานาน และยังเป็นอาจารย์แพทย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส มหาวิทยาลัยประจำรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาอุทิศชีวิตในการฝึกฝนและอบรมนักเรียนแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มานานถึง 50 ปี