(3 พ.ค.) คณะบริหารภายใต้การนำของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่มเพดานการรับผู้ลี้ภัยประจำปีสู่สหรัฐฯ เป็น 62,500 คน หลังเคยมีการตัดสินใจไปเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะรักษาระดับจำนวนผู้ลี้ภัยที่คณะบริหารชุดก่อนหน้าตั้งไว้ ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมา
เพดานการรับผู้ลี้ภัยใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้สำหรับปีงบประมาณ 2021 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. ปรับจำนวนการรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นจาก 15,000 คน ที่เคยถูกกำหนดโดยคณะบริหารภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับปีงบประมาณเดียวกันนี้ซึ่งมีระยะเวลา 12 เดือน
“สิ่งนี่จะลบล้างจำนวนการรับผู้ลี้ภัยที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 15,000 คน ที่กำหนดโดยคณะบริหารชุดก่อนหน้า ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงคุณค่าของอเมริกาในฐานะชาติที่ต้อนรับและสนับสนุนผู้ลี้ภัย” ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์
“ข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าคือเราจะไม่สามารถรับผู้ลี้ภัยได้ถึง 62,500 คน ในปีนี้” ไบเดนกล่าว พร้อมชี้ว่าคณะบริหารของเขากำลัง “ทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา” แต่การจะทำให้ระบบการรับผู้ลี้ภัยที่ “เสียหาย” กลับมาดำเนินการได้ตามจำนวนผู้ยื่นลี้ภัยที่คาดหวังได้นั้น “จะต้องใช้เวลา”
ไบเดนระบุว่าคณะบริหารของเขาจะสนับสนุนความพยายามเพื่อขยายความสามารถในการรับผู้ลี้ภัยของประเทศ “เพื่อที่เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายการรับผู้ลี้ภัย 125,000 คน ที่ผมตั้งใจจะกำหนดในปีงบประมาณที่จะมาถึง”
ไบเดนเสริมว่าเป้าหมายที่ทะเยอทะยานยิ่งขึ้นสำหรับปีงบประมาณแรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา “ยังคงยากที่จะบรรลุได้” โดยเน้นย้ำว่าวอชิงตันจะ “ใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อช่วยเหลือบรรดาผู้ลี้ภัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยสมบูรณ์เหล่านี้”
ทำเนียบขาว ซึ่งกำลังเผชิญกับกลุ่มผู้อพยพที่ล้นทะลักบริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของประเทศ ออกประกาศข้างต้นในวันจันทร์ (3 พ.ค.) หลังจากได้ถอนคำพูดของตนช่วงกลางเดือนเมษายน เนื่องจากไบเดนลงนามคำสั่งฉุกเฉินรักษาเพดานการรับผู้ลี้ภัยเท่าเดิม ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาจากกลุ่มผู้ลี้ภัยและกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคเดโมแครตทันที โดยพวกเขาคัดค้านการกลับลำอย่างกะทันหันและมีนัยสำคัญของไบเดนจากคำมั่นที่เคยให้ไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะเพิ่มเพดานการรับผู้ลี้ภัยประจำปีสูงสุดเป็น 62,500 คน
ขณะเดียวกัน ศูนย์การประมวลผู้ลี้ภัย (Refugee Processing Center) สังกัดกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่าผู้ลี้ภัยที่สหรัฐฯ รับเข้าประเทศในปีงบประมาณนี้ มีเพียงแค่ 2,050 คน เท่านั้นเมื่อนับถึง 31 มี.ค.
ทั้งนี้ ไบเดนมีคะแนนนิยมต่ำสุดในผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่องการจัดการปัญหาการอพยพ หลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วกว่า 100 วัน โดยสิ่งที่เขาพูดในเดือนที่แล้วซึ่งให้การยอมรับว่าสถานการณ์บริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของประเทศนั้นเป็น “วิกฤต” บีบให้ทำเนียบขาวต้องออกมาลดทอนน้ำหนักในคำพูดนี้ของเขา โดยกล่าวว่าการกล่าวเช่นนี้ไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจุดยืนที่เป็นทางการของคณะบริหาร
“เราจะเพิ่มจำนวนแน่นอน” ไบเดนกล่าวถึงเรื่องเพดานการรับผู้ลี้ภัยเมื่อวันที่ 17 เม.ย. “ปัญหาคือส่วนงานด้านผู้ลี้ภัยนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งนำมาสู่ปัญหากับกลุ่มผู้อพยพอายุน้อยบริเวณพรมแดนและเราไม่สามารถทำหลายๆ สิ่งไปพร้อมกันได้”
ขอบคุณ ซินหัวไทย