6 พฤษภาคม 2564 เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีที่อ่านคำวินิจฉัยคดีผ่านทางทีวีวงจรปิดซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย โดยระบุข้อความดังนี้
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทำการอ่านคำวินิจฉัยคดี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น. โดยในขณะที่ทำการถ่ายทอดภาพและเสียงการอ่านคำวินิจฉัยคดีผ่านทางทีวีวงจรปิดได้มีภาพนิ่งของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะที่มิได้สวมหน้ากากอนามัย เข้ามาแทนที่ภาพเคลื่อนไหวของศาลที่กำลังดำเนินกระบวนการอ่านคำวินิจฉัยอยู่ในระยะแรก ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้สวมหน้ากากอนามัยอยู่โดยครบถ้วนทุกท่าน และภาพนิ่งที่แทรกเข้ามาดังกล่าวอาจเป็นเหตุให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยในขณะทำการอ่านคำวินิจฉัยคดีนั้น
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันกับข้อเท็จจริง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขอเรียนขี้แจงว่า ภาพนิ่งดังกล่าวไม่ใช่ภาพในขณะที่ศาลกำลังปฏิบัติหน้าที่อ่านคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด หากแต่เป็นภาพที่ได้มีการบันทึกไว้ในวาระโอกาสอื่น และนำมาใช้เฉพาะวัตถุประสงค์สำหรับประกอบการถ่ายทอดทีวีวงจรปิดในช่วงเวลาที่ทำการตัดภาพการถ่ายทอดให้มีเฉพาะเสียงการอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ในการนี้จึงขอเรียนให้ทราบว่า ในขณะที่ศาลทำการอ่านคำวินิจฉัยอยู่นั้น คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกท่าน ได้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัดตลอดเวลาจนภารกิจดังกล่าวเสร็จสิ้นในเวลา 15.30 น.
ทั้งนี้ในเอกสารชี้แจงมีการนำภาพการนั่งอ่านคำวินิจฉัยมาเผยแพร่ด้วย เป็นภาพนิ่งที่แยกบันทึกไว้ต่างหากเพื่อประกอบจอภาพ และภาพการออกนั่งอ่านคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564
นอกจากนี้ในเอกสารชี้แจงยังให้ความรู้ทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สังคม ระบุว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 34 แต่หาเป็นกรณีการแสดงความเห็นในลักษณะของการวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยคดีที่มิได้กระทำโดยสุจริต ใช้ถ้อยคำที่มีความหมายหยาบคาย เสียดสี หรือาฆาตมาดร้าย เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 38 และมาตรา 39 และอาจเป็นความผิดฐานดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198