แพทย์เผยวัคซีนโควิด-19 ทุกตัวป้องกันเสียชีวิตและป่วยหนักได้เกือบ 100%

07 พฤษภาคม 2564

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เผยวัคซีนโควิด-19 ทุกตัว มีประสิทธิภาพป้องกันเสียชีวิตและป่วยหนักได้เกือบ 100% โดยวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าตอบสนองการป้องกันโรคต่อเชื้อกลายพันธุ์ได้ดีพอสมควรและล่าสุดวิจัยพบช่วยลดการแพร่เชื้อในบ้านได้ถึง 50%

 วันนี้ (6 พฤษภาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า การนำวัคซีนมาใช้เราหวังผลคือไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้ป่วยหนัก ไม่ให้แพร่เชื้อในครอบครัว สังคมและสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ได้  มีการวิจัยวัคซีนโควิดจนประสบความสำเร็จ หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ 10 เดือน ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนตัวไหนที่สมบูรณ์แบบ การนำมาใช้จึงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้และโทษที่เกิดจากผลข้างเคียง ซึ่งทุกประเทศเห็นตรงกันว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษ สำหรับตัวเลขประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละยี่ห้อ ไม่อยากให้ยึดติดเพราะการวิจัยมีความแตกต่างและหลากหลาย ทั้งสถานที่ เวลา เผ่าพันธุ์ และช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน 

แพทย์เผยวัคซีนโควิด-19 ทุกตัวป้องกันเสียชีวิตและป่วยหนักได้เกือบ 100%
 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยขณะวิจัยมีเชื้อกลายพันธุ์เกิดขึ้น จึงเอามาเทียบกันไม่ได้ แต่ที่ชัดเจนคือ วัคซีนทุกตัวป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยหนักจนต้องนอนไอซียูได้เกือบ 100% “เช่นวัคซีนซิโนแวคพบว่าป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้เกือบ 100% เหมือนวัคซีนตัวอื่นๆ ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีการศึกษาว่ามีผลต่อเชื้อกลายพันธุ์ค่อนข้างดี โดยเฉพาะสายพันธุ์อังกฤษได้ผลเกือบ 70% แต่สำหรับสายพันธุ์ดั้งเดิมป้องกันได้ประมาณ 81% ขึ้นไป แต่ผลการป้องกันอาจจะยังไม่ค่อยได้ผลดีในสายพันธุ์แอฟริกาใต้ นอกจากนี้ที่สกอตแลนด์มีการศึกษาเปรียบเทียบผลการป้องกันโรคระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับวัคซีนของไฟเซอร์ พบว่าประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ากัน และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีแนวโน้มดีกว่าโดยเฉพาะการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน” นายแพทย์ทวีกล่าว

แพทย์เผยวัคซีนโควิด-19 ทุกตัวป้องกันเสียชีวิตและป่วยหนักได้เกือบ 100%

 นายแพทย์ทวีกล่าวต่อว่า ล่าสุด ทั้งวัคซีนของไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้ามีการศึกษาและตีพิมพ์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ฉีดวัคซีนแล้วป้องกันแพร่เชื้อโควิดในครอบครัวได้ด้วยโดยศึกษาคนที่ฉีดวัคซีนแล้วป่วยโควิด เมื่อตามไปดูพบว่าคนในบ้านติดเชื้อน้อยลงเมื่อเทียบกับคนไม่ได้ฉีด โดยวัคซีนไฟเซอร์แพร่เชื้อลดลง 60% และแอสตร้าเซนเนก้าแพร่เชื้อลดลง 50% 
สรุป วัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดีใกล้เคียงกันทั้งคู่และมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยคล้ายกับวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ฉุกเฉินที่กำลังจะมีใช้ในอนาคต

ที่มา รัฐบาลไทย