เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำเอาชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อสื่อดังของไต้หวันได้รายงานเรื่องราวของสาวไซด์ไลน์รายหนึ่ง ที่โด่งดังมากในโลกออนไลน์เพราะด้วยความสวยงามของเรือนร่างและจุดดึงดูดที่สะดุดตา จึงทำให้มีผู้ชายมาติดพันหลายคน กระทั่งปัญหาได้มาเกิดขึ้นกับหนุ่มนักธุรกิจรายหนึ่ง
โดยหญิงสาวผู้เสียหายได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอถูก หนุ่มชื่อ หลี่ ซู่เฉิน วัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ล่อลวงไปหลับนอน ซึ่งตอนแรกได้มีการตกลงกันเอาไว้ว่า เขาจะซื้อบริการเธอด้วยเงิน3 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ เป็นเวลา 5 วัน ทว่าหลังจากที่เธอขายบริการเรียบร้อยแล้ว เขากลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าบริการ ทำให้เธอต้องเข้าแจ้งคามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงไทเปว่าถูกกระทำชำเราและกระทำรุนแรง
ขณะเดียวกัน สำนักงานอัยการเขต ได้เผยถึงหลักฐานอีกว่า จากการตรวจสอบพบดีเอ็นเอของฝ่ายชายบนชุดชั้นในของหญิงสาว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการหลอกลวงจึงได้ฟ้องดำเนินคดีในข้อหาละเมิดทางเพศ อนาจาร และฉ้อโกง แต่ทางด้านฝ่ายชายได้ปฏิเสธว่า เขาได้ให้หญิงสาวลองชุดชั้นใน 3 ชุด ซึ่งเขาเป็นคนหยิบให้ จึงมีดีเอ็นเอของเขา แต่ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอตามที่ถูกกล่าวอ้าง รวมทั้งไม่ได้มีการทำอนาจารหรือข่มขู่ใดๆ
นอกจากนี้ภายหลังจากการสอบสวนพบข้อมูลว่า ฝ่ายชายได้ส่งข้อความทางอินสตาแกรมทักไปหาหญิงสาวรายดังกล่าว เพื่อติดต่อพูดคุยเรื่องธุรกิจที่ร้านอาหารหรู เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ก่อนที่เขาจะเสนอแพ็กเกจเหมา 5 วัน 3 ล้าน ให้มาบริการทางเพศลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่โรงแรม อีกทั้งเขายังได้ออกอุบายด้วยค่าจ้างที่สูงลิบนี้ว่าเขาจำเป็นต้องยืนยันว่าหน้าอกของหญิงสาวเป็นของแท้หรือไม่
แม้ว่าฝ่ายหญิงจะบอกว่าเธอไม่ได้เสริมหน้าอก ก่อนจะพาเธอไปห้องน้ำผู้พิการแล้วให้เธอเปิดเสื้อถอดชุดชั้นในให้ดู ซึ่งหญิงสาวอ้างว่ามีการใช้ความรุนแรงกับเธอในขณะนั้น อีกทั้งยังให้เธอร่วมถ่ายรูปกับลูกค้าของเขาด้วย ซึ่งเธอก็ทำตามที่บอกทั้งหมด หลังจากนั้นหญิงสาวก็ตกลงไปรับงานที่โรงแรมตามที่หลี่นัดหมายให้กับนักธุรกิจที่ร่ำรวย 2 คน 3 ครั้ง
แต่หลังจากเขาได้รับเงินมาก็อ้างว่าหักค่าคอมมิชชั่นและค่าห้องพักไป เหลือเงินค่าจ้างให้หญิงสาว 200,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ซึ่งน้อยกว่าที่ตกลงไว้มาก จึงทำให้เธอโกรธแค้นและไม่พอใจ เข้าแจ้งความดำเนินคดีในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการสอบสวนพบว่า ชายนักธุรกิจรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าบริการทางเพศ รวมทั้งการฉ้อโกงในคดีอื่นๆ อีก จึงถูกดำเนินคดีในส่วนนี้ ส่วนข้อหาบังคับขืนใจที่ถูกหญิงสาวกล่าวหานั้น ทางอัยการไม่พบหลักฐานที่เพียงพอจะชี้ชัดได้ว่าเธอถูกกระทำชำเราทางเพศจริง จึงทำให้หลี่ไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูล ETtoday, AppleDaily