เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเด็กชายชาวไต้หวันวัย 7 ขวบ เข้าเรียนวิชายูโด ก่อนถูกครูผู้สอนจับทุ่มกว่า 27 ครั้งตลอดการเรียนการสอน จบลงที่เด็กนอนโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเด็กชายชาวไต้หวัน เข้าเรียนคลาสวิชาศิลปะป้องกันตัวยูโดมาได้เพียง 2 สัปดาห์จากคอร์สหนึ่งทั้งหมด 8 ครั้ง แต่ในวันนั้นลุงของหนูน้อยที่มานั่งดูอยู่ด้วย ได้สังเกตเห็นว่าหลานชายมีอาการไม่ค่อยดีคล้ายจะคลื่นไส้ จึงไปบอกกับครูผู้สอนให้รู้ตัว แต่ทางครูกลับบอกว่าคงเป็นเพราะเพิ่งกินอิ่มมา สักพักก็หายเอง
รายงานระบุว่า ครูผู้สอนได้สั่งให้นักเรียนรุ่นพี่สองคน ผลัดกันทุ่มตัวเด็กน้อยใช้เป็นการฝึกหัดให้ทั้งสอง กระทั่งเขาเริ่มไม่ไหวเพราะเจ็บปวดไปหมด ในระหว่างการฝึกเขาร้องเจ็บปวดว่า "ขาผม ๆ" หัวผม ๆ" "ผมไม่เอาแล้ว" แต่ทางครูฝึกก็ยังคงสั่งให้เขาลุกขึ้นมา และให้เด็กรุ่นพี่จับเขาฝึกต่อ
ด้านครูฝึกได้สั่งให้เด็กชายยืนขึ้น หากไม่ยืนเขาจะเป็นคนทุ่มเอง เด็กชายถูกทุ่มลงกับพื้นติดต่อกันคาดว่าร่วม 27 ครั้งได้จนเขาหมดสติ ก่อนจะนำเด็กชายไปคืนลุงที่รออยู่ข้างนอกแล้วอ้างว่าเด็กชายแกล้งหมดสติ แต่ลุงเห็นว่าตัวหลานชายเริ่มซีดและตาเหลือก รีบเรียกรถพยาบาลมาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เบื้องต้นหนูน้อยได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน แต่แม้ว่าการผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว แต่แพทย์กลับบอกว่าอาการของเขาสาหัสอย่างมาก หากเด็กฟื้นขึ้นมาแล้วเขาจะต้องอยู่ในสภาพ "ผู้ป่วยติดเตียง” ไปตลอด
นอกจากนี้ยังพบร่องรอยฟกช้ำดำเขียวทั่วร่างกาย ซึ่งสาหัสเทียบเท่าการถูกรถชนเลยทีเดียว ตอนนี้เด็กชายยังนอนโคม่าอยู่ในห้องไอซียูและทางด้านครอบครัวเตรียมเอาเรื่องกับครูผู้สอนแล้ว