เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.) สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าปริมาณการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นจะเป็นกระแสยืนยาวหรือไม่ หลังข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) เมื่อวันอังคาร (11 พ.ค.) ระบุว่าปริมาณการฉีดวัคซีนโดสแรกเพิ่มสูง ซึ่งบ่งชี้ว่า “มีประชาชนเข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น”
เมื่อวันอังคาร (11 พ.ค.) สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันรวม 150,000 โดส เป็นตัวเลขรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. โดยปริมาณการฉีดวัคซีนตัวดังกล่าวในรอบสัปดาห์อยู่ที่เฉลี่ย 106,000 โดสต่อวัน ลดลงจากตัวเลขสูงสุดที่ 425,000 โดสต่อวันในช่วงกลางเดือนเมษายน
ศูนย์ฯ ระบุว่ากว่าร้อยละ 46 ของประชาชนในสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส และร้อยละ 35 ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.) คณะที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกันของศูนย์ฯ มีมติรับรองคำแนะนำฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค ให้เด็กอายุต่ำสุด 12 ปี โดยเห็นพ้องว่าประโยชน์ของการฉีดวัคซีนมีมากกว่าภัยเสี่ยง
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เฉลี่ยรายวันของสหรัฐฯ ลดต่ำในวันอังคาร (11 พ.ค.) ด้วยยอดเฉลี่ยรอบ 7 วันอยู่ที่ราว 38,000 ราย ต่ำกว่า 40,000 รายต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2020
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เฉลี่ยรอบ 7 วันอยู่ที่ 608 รายต่อวัน โดยสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวมกว่า 582,000 ราย สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขอบคุณ ซินหัวไทย