ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ได้เกิดข่าวเศร้าเมื่อ นายศักดิ์ชัย หรือ ยิ้ว เจ้าบ่าววัย 32 ปี ได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองในบ้านพัก จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ช่วงเช้าเพิ่งเข้าพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกับเจ้าสาวตั้งครรภ์อยู่ด้วยนั้น ท่ามกลางความมึนงงของญาติและเพื่อนผู้เสียชีวิต เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเกิดจากอะไร
ส่วน น.ส กนกพร หรือ กิ๊ฟ วัย 27 ปี ผู้เป็นเจ้าสาวมีอาการเสียใจอย่างหนัก ร่ำไห้ตลอดเวลา ที่สามีของเธอคิดสั้น ทิ้งเธอและลูกน้อยในท้องไป ซึ่งคดีในตอนนั้นทางญาติไม่ติดใจอะไร ได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นอีกครั้ง เมื่อ นายเอกชัย หรือ หนุ่ม พี่ชายคนโตของผู้เสียชีวิต ส่งหลักฐานข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมของกิ๊ฟ น้องสะใภ้ โดยระบุว่า ใจจริงครอบครัวไม่อยากพูดอะไรเพราะเพิ่งสูญเสียน้องชายไป แต่ที่ผ่านมาน้องชายกลับถูกสังคมกล่าวหาว่าคิดสั้น ทอดทิ้งลูกเมีย แถมยังเกิดประเด็นว่าอดีตน้องสะใภ้อาจจะไม่ท้องจริง และไม่รับความจริง จึงออกมาบอกกับสังคม เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวตนถูกด่าเยอะ
กิ๊ฟคบหากับน้องชายตนจริงเมื่อปี 2563 ก่อนแต่งงานน้องชายยอมรับว่าไม่มีความสุข รู้สึกเครียดที่มีปัญหาทะเลาะกับกิ๊ฟตลอดเวลา จึงได้บอกเลิกกิ๊ฟไปในวันที่ 17 เม.ย. แต่หลังจากนั้น 2-3 วัน กิ๊ฟมาบอกว่าท้อง ขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นครอบครัวไม่อยากเชื่อ เพราะยิ้วเคยเล่าว่าพากิ๊ฟไปฉีดยาคุมมาทุกเดือน จึงตัดสินใจให้ เตย ซึ่งเป็นเพื่อนของยิ้ว นำที่ตรวจครรภ์ 3 อันไปหากิ๊ฟ ซึ่งผลตรวจขึ้นว่าท้องจริงทั้ง 3 อัน ครอบครัวจึงตกลงจัดงานแต่งงาน แต่กลับเกิดเหตุสลดดังกล่าว
หลังจบงานศพน้องชาย ครอบครัวตั้งใจดูแลหลานที่อยู่ในท้องของกิ๊ฟ ที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายว่าเขาจะไม่ท้อง ซึ่งกิ๊ฟ ก็โพสต์เฟซบุ๊กตลอดว่าท้องอยู่ จนกระทั่งวันที่ 3 พ.ค.64 กิ๊ฟ ส่งรูปอัลตราซาวด์มาให้แฟนของตนเองดูทางแชทเฟซบุ๊ก แต่ตอนนั้นพวกตนดูแลรู้สึกแปลก เพราะภาพอาจคัดลอกมา จึงไปหาดูในกูเกิล เจอภาพเดียวกันอยู่จริง พบว่าภาพนี้ถูกโพสต์ไว้ในกระทู้ของพันทิป เป็นภาพอัลตราซาวด์ของสาวท้อง 5 สัปดาห์ โพสต์ไว้เมื่อปี 2557
หลังจับได้ว่าเป็นภาพปลอม ตนจึงไปเคลียร์กับกิ๊ฟจนสารภาพว่าไม่ใช่ภาพของกิ๊ฟจริง แต่ยืนยันว่าท้องอยู่ ซึ่งทางครอบครัวไม่อยากเชื่อแล้ว กระทั่งวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา มีสาวท้องคนหนึ่งมารับสารภาพว่าให้ปัสสาวะกับกิ๊ฟไป เพราะเห็นใจที่กิ๊ฟมาขอร้อง จากนั้นทางญาติได้ไปเจรจากับกิ๊ฟอีกครั้งให้ยอมรับความจริง แต่กิ๊ฟโวยวายไม่รับผิด พยายามชี้แจงว่าไม่ได้ไปเอาปัสสาวะคนอื่น แขนซ้ายยังมีรอยเจาะเลือดเพิ่งไปฝากครรภ์มา ยอมรับแค่เรื่องภาพอัลตราซาวด์ เพราะมีปัญหากับคนคนหนึ่งจึงอยากเอาชนะเท่านั้น จากนั้นก็ท้าให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล
ต่อมาทางครอบครัวได้นัดกิ๊ฟให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลในวันที่ 9 พ.ค. ตอนแรกกิ๊ฟจะไม่มาตรวจ บอกว่าอยู่ จ.นครปฐม แต่ครอบครัวขู่ว่าถ้าไม่มาจะไปแจ้งความ จึงยอมมา เมื่อไปที่โรงพยาบาลได้ตรวจอัลตราซาวด์ทั้งหน้าท้องและช่องคลอดก็ไม่พบว่าตั้งท้อง ซึ่งกิ๊ฟอ้างกับหมอว่า ผลตรวจปัสสาวะบอกว่าตั้งท้อง พอตรวจอัลตราซาวด์ไม่ท้องได้อย่างไร พอหมอแนะนำให้ตรวจเลือดก็บ่ายเบี่ยง ต้องขู่จะแจ้งความจึงยอมตรวจเลือดและรอผล 7 วัน
และระหว่างรอผล กิ๊ฟ แชทมาบอกว่าเด็กในครรภ์ไม่แข็งแรงและแท้ง ทำนองว่ารู้ผลแล้ว ต่อมาแพทย์เรียกตน และ กิ๊ฟ มาฟังผลตรวจเลือด พบว่าไม่ท้อง แต่ผลตรวจปัสสาวะบอกท้อง ตอนแรกหมอก็ยังรู้สึกขัดแย้ง แต่เมื่อตนเล่าอธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง แพทย์จึงให้ยึดผลเลือดเป็นหลัก ตอนนั้นกิ๊ฟ อ้างว่ากินยาขับเลือด ไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. อาจจะขับเลือดไปแล้ว ซึ่งทางครอบครัวคาใจว่า หากแท้งจริงกิ๊ฟจะส่งภาพในวันที่ 3 พ.ค. มาทำไมว่ายังท้องอยู่ โดยเหตุผลที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย เพราะอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับน้องชายที่เสียชีวิตไป แต่กลับตกเป็นจำเลยสังคมว่าไม่รับผิดชอบลูกเมีย
ขณะที่หญิงตั้งครรภ์เจ้าของปัสสาวะ ยอมรับว่านำปัสสาวะของตนไปให้กิ๊ฟทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มต้นคือน้องสาวของกิ๊ฟโทร. มาขอความช่วยเหลือว่ากิ๊ฟมีปัญหากับแฟนและเลิกรากัน และไปบอกฝ่ายชายว่าท้องแต่ไม่มั่นใจว่าท้องไหม จึงมาขอปัสสาวะตนไปตรวจ ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย วันแรกที่ตนเองทราบข่าวว่าเจ้าบ่าวฆ่าตัวตาย ตนเองทำอะไรไม่ถูก ตนเองเหมือนน้ำเต็มปาก ทำอะไรไม่ได้ จึงรู้สึกผิดมาก ต้องออกมาพูดเพราะไม่อยากมีตราบาป สิ่งที่ทำไปเหมือนช่วยฆ่าคนคนหนึ่ง ขณะที่ กิ๊ฟ ผู้เป็นเจ้าสาวยังยืนยันว่า เคยตั้งท้องจริง และปัจจุบันได้ยุติการตั้งครรภ์ไปแล้ว ส่วนเรื่องขอฉี่คนอื่นมา ตนเองไม่ขอพูดถึง