จากกรณีที่นางยุพารัตน์ จุมพล อายุ 38 ปี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เธอถูกนายชาคริต ทนสิงห์ ลูกชายนายก อบต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี บุกทำร้ายร่างกายถึงหน้าโรงงาน ซึ่งเธอได้เล่าถึงสาเหตุเบื้องต้นว่า เธอและลูกชายอบต.หัวหว้า มีปัญหากันมานาน อีกทั้งฝ่ายชายยังโพสต์ด่าเธอลอยๆ เธอจึงได้โพสต์ลอยๆ บ้าง กระทั่ง นายชาคริต มาดักทำร้าย
นอกจากนี้เธอยังบอกถึงสาเหตุหลักอีกว่า เนื่องจาก นายชาคริต มาชอบพอกับน้องสาวของเธอ แต่ไม่เห็นด้วยกับความรักของทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างมีคนรักอยู่แล้ว นี่จึงเป็นอีกหนึ่งชนวนเหตุดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูก อบต.ปราจีนบุรีฉาวอีก ยกพวกดักทำร้ายผู้หญิง ไม่เข็ดปีที่แล้วพึ่งหงอย
- เจอแล้วหลักฐานดิ้นไม่หลุด ลูกอบต.ปราจีนบุรีกร่างจัด ดักทำร้ายผู้หญิง
- มันเกินจะทน?! รู้แล้วสาเหตุ ลูกอบต.ปราจีนบุรี ฉุนจัด ยกพวกบุกทำร้ายสาวใหญ่หน้าโรงงาน
ล่าสุดทางด้าน น้องสาวของนางยุพารัตน์ ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ปัจจุบันเธอได้คบหาดูใจกับ นายชาคริต ผู้ก่อเหตุได้สักประมาณ 3 - 4 เดือนแล้ว ซึ่งเธอได้เลิกกับอดีตแฟนคนก่อนหน้านี้ไปแล้ว ซึ่งเธอไม่รู้ว่าพี่สาวของตนไม่ถูกใจ นายชาคริต ตรงไหน จนต้องโพสต์ต่อว่าในเฟซบุ๊กพอโพสต์หลายครั้งมันก็เลยเกิดเรื่อง
แต่จากที่ นายชาคริต แฟนหนุ่มได้ไปทำร้ายพี่สาวของเธอนั้น เธอเองไม่รู้เรื่อง แต่เธอคิดว่า นายชาคริต ที่มีสถานะเป็นแฟนหนุ่มของเธอในตอนนี้ทนมานานแล้ว
"ผู้ชายคนนี้ (นายชาคริต) เขาจะไม่มีสิทธิ์โกรธผู้หญิงคนนี้ (นางยุพารัตน์) เลยหรอ ในเมื่อเขาถูกโดนด่ามาตลอดระยะเวลา 2 - 3 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเขาทนแล้วหรอ คนเราความอดทนมันมีขีดกำจัดค่ะ หนูบอกไว้เลย เขาจะไม่มีสิทธิ์โกรธเพียงเพราะเขาเป็นลูกนักการเมืองหรอ ลูกนักการเมืองไม่มีสิทธิ์เสียใจหรอ ที่มีคนอื่นมาต่อว่า คนเรามันมีอารมณ์ทุกคนค่ะ"
ถ้าห้ามได้เธอก็จะห้ามเพราะที่ผ่านมาเธอรู้เรื่องก็ห้ามปรามตลอด แต่ครั้งนี้เธอไม่รู้ เพราะฝ่ายผู้บาดเจ็บก็คือพี่สาวของเธอ ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคน เรื่องคนในครอบครัว เรื่องส่วนตัวของเธอ พี่สาวของเธอที่บอกว่ารักและหวังดีต่อเธอ ต้องเตือนเธอต่อหน้า แต่กลับนำเธอไปประจานในโซเชียล นี่คือรักและหวังดีแบบไหน แต่เธอไม่ถือสาเพราะยังไงก็พี่น้อง
ขณะที่ พ.ต.ท.นุวัฒร์ จัตุรัส รอง ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวถึงคดีนี้ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุและไปที่เกิดเหตุทำการตรวจค้น พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 11 นัด จึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง มาดำเนินคดี ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ โดยตั้งข้อกล่าวหา ว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนกรณีทำร้ายร่างกาย รอเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว จะแจ้งดำเนินคดีตามฐานความผิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ด้านพนักงานสอบสวน เปิดเผยด้วยว่า ทางเจ้าของโรงงานที่เป็นชาวญี่ปุ่น เตรียมเข้าแจ้งความเพิ่มอีก 1 คดี ในข้อหาบุกรุก เนื่องจากผู้ก่อเหตุพร้อมกับพวกเข้าไปในโรงงานโดยไม่รับอนุญาต ร่วมทั้งจะมีการตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับพวกของนายชาคริต ทนสิงห์ อีกด้วย