วันที่ 15 พฤษภาคม 2564เวลา 05.35 น. ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ องค์การเภสัชกรรม (GPO)รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 5 แสนโดสจากประเทศจีน และเมื่อรวมวัคซีนซิโนแวคอีกจำนวน 5 แสนโดส ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้รับบริจาคของประเทศจีนที่ได้เข้ามาเมื่อวานนี้ วันที่14 พฤษภาคม 2564 จะทำให้ปัจจุบันมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามาแล้วรวมทั้งสิ้น 4.5 ล้านโดส และในปลายเดือนพฤษภาคมนี้จะเข้ามาเพิ่มอีก 1.5 ล้านโดส
นางศิรินุช ชีวันพิศาลนุกูล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า สำหรับการรับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จากประเทศจีนในครั้งนี้ เพิ่มอีกจำนวน 5 แสนโดส จำนวน 14 พาเลท ที่มีการบรรจุภายในตู้ควบคุมอุณหภูมิไว้ไม่เกิน 2 – 8 องศาเซลเซียส ตลอดการขนส่งเพื่อรักษาคุณภาพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคของไทย ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส วันที่ 22 มีนาคม 2564 จำนวน 8 แสนโดส วันที่ 10 เมษายน 2564 จำนวน 1 ล้านโดส วันที่ 24 เมษายน 2564 จำนวน 5 แสนโดส วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เป็นวัคซีนที่ทางประเทศจีนบริจาค จำนวน 5 แสนโดส และในวันนี้ (15 พ.ค.64) จำนวน 5 แสนโดส รวมเข้ามาแล้ว 4.5 โดส และในปลายเดือนพฤษภาคมนี้จะเข้ามาอีกจำนวน 1.5 ล้านโดส จะรวมเป็นทั้งสิ้น 6 ล้านโดส
ทั้งนี้องค์การเภสัชกรรมจะทำการจัดหาวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยวัคซีนทุกล็อตที่รับเข้ามาจะมีการควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 2-8 องศา ตลอดเวลาการจัดส่งและจัดเก็บ โดยวัคซีนทำการจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์กระจายสินค้าของ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งเป็นคลังที่มีคุณภาพ มาตรฐาน จากนั้นองค์การฯจะตรวจรับและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ เมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว จะส่งให้กรมควบคุมโรคตรวจรับวัคซีนและกระจายไปยังหน่วยบริการ และสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่ทางกรมควบคุมโรคกำหนดต่อไป