ส่งเสียงก้องกังวาลไปทั้งจักรวาลจริงๆ สำหรับ ตูซาร์ หวิ่น วิน นางงามจากประเทศเมียนมา ที่เธอได้ออกมาสร้างความฮือฮาด้วยการชูป้าย "Pray for Myanmar" เพื่อ CALL OUT เพื่อประเทศบ้านเกิดหลังจากที่เกิดเหตุการรัฐบาลพม่าทำรัฐประหาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการดังกล่าวมากมาย อีกทั้งการ CALL OUT ดังกล่าวยังทำให้เธอได้รับรางวัลชุดประจำชาติอีกด้วย
โดยเธอต้องการที่จะยืนหยัดสู้เพื่อประชาธิปไตย และสื่อข้อความไปถึงคนทั่วโลก ซึ่งเธอบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเธอต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายกว่าจะถึงจุดนี้ อีกทั้งยังมีสิ่งที่ต้องสูญเสียกับทางเลือกของเธอ รวมไปถึงต้องเผชิญกับความตึงเครียดและหวาดกลัว และเมื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์สสิ้นสุดลง เธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปอยู่ที่ไหนดี
เธอเล่าต่อไปว่า เธอฝันอยากจะมาประกวดเวทีระดับโลกแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่จะสานฝันของตัวเองจนสำเร็จ แต่การเป็นตัวแทนของประเทศมอบความหมายใหม่แก่ตัวเธอ เพราะเธอตั้งใจที่จะใช้เวทีนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากนานาชาติ สู่การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา และร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติให้ปลดปล่อยผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้ถูกทหารควบคุมตัว
ตูซาร์ หวิ่น วิน ได้เล่าถึงความโหดร้ายของทหารเมียมาที่จะไม่ลังเลที่จะเอาชีวิตประชาชน จนกระทั่งการเดินทางของการประกวดของเธอเริ่มใกล้เข้ามาถึง ซึ่งเธอกลัวมากในจากเดินทาง เนื่องจากทุกเย็นทหารจะมีการประกาศออกหมายจับคนที่มีชื่อเสียง และคนอื่นๆ ที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาล เธอต้องเฝ้าจับตาทุกวันว่าจะมีชื่อของเธออยู่ในลิสต์ที่ทางการต้องการตัวหรือไม่
ทำให้ตอนที่เธอตัดสินใจที่จะบินมาไมอามี่ ต้องต้องสวมเสื้อฮู้ดและแว่นตาเพื่อไม่ให้ใครจำจดได้ในสนามบินในกรุงย่างกุ้ง เพราะเธอเห็นรายงานข่าวคนที่เธอรู้จักถูกจับขณะจะออกนอกประเทศ กระทั่งตอนนี้เธอเชื่อว่าคงไม่ปลอดภัยแล้วที่เธอจะกลับไปเมียนมาหลังจากออกมาพูดต่อต้านรัฐบาล
“ฉันต้องผ่าน ตม. และฉันก็หวาดกลัวมาก” เธอถ่ายทอดความรู้สึกในตอนนั้น
จนมาถึงสหรัฐอเมรกา อุปสรรคของเธอก็ยังไม่จบลง เนื่องจากเธอตรวจสอบพบว่า ทางสายการบินทำกระเป๋าเดินทางของเธอหายไปภายในกระเป๋าใบนั้นคือชุดที่เธอต้องใช้ในการประกวด รวมถึงชุดประจำชาติสุดวิจิตร ที่ควรจะได้เฉิดฉายบนเวทีโลก
ชุดที่หายไป
แต่ ตูซาร์ หวิ่น วิน ก็ยังคิดว่าเธอโชคดีอย่างมาก เพราะเธอได้รับน้ำใจจากเพื่อนนางงามผู้เข้าประกวดชาติอื่นๆ ที่บ้างก็ให้เธอยืมชุด และยังมีคนเมียนมาที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ คอยช่วยกันจัดหาชุดอื่นมาให้สาวงามผู้นี้ได้นำไปใช้ในการประกวดรอบชุดประจำชาติแทนชุดเดิม ซึ่งเธอก็สวมใส่ชุดดังกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่น
ขอบคุณข้อมูล nytimes.com