สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ได้แถลงถึงสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดในวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2564 พบว่าสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,473 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 113,555 ราย หายป่วยแล้ว 69,918 ราย แต่เสียชีวิตสะสม 649 ราย
โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตถึง 35 ราย ซึ่งรอบนี้มีผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุดคือ 2 เดือน ส่วนผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 93 ปี แบ่งเป็นชาย 17 ราย และหญิง 18 ราย
จำนวนผู้เสียชีวิตแบ่งเป็น ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 16 ราย รองลงมาคือ เชียงราย สงขลา สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ขณะที่ อุบลราชธานี สระแก้ว ศรีสะเกษ ระยอง ชลบุรี ปทุมธานี ชัยภูมิ ลพบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ชุมพร สระบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย
นอกจากนี้ โรคประจำตัว/ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค มีดังนี้
- ความดันโลหิตสูง
- เบาหวาน
- ไตเรื้อรัง
- ไขมันในเลือดสูง
- หลอดเลือดสมอง
- หัวใจ ภาวะอ้วน
- ปฏิเสธโรคประจำตัว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้ให้รายละเอียดว่า "ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ควรทราบข้อมูลเบื้องต้น และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเข้ารับการฉีด กล่าวคือ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนฉีดหากว่ามีโรคประจำตัว และภายหลังจากการฉีดก็ควรเฝ้าสังเกตอาการแพ้ อย่างน้อย 30 นาที
หากมีอาการแพ้รุนแรง เช่น ไข้สูง ชัก ให้รีบแจ้ง 1422 ที่สำคัญต้องตระหนักว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วยังสามารถติดเชื้อได้อีก จึงยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาอนามัย การเว้นระยะห่างทางระหว่างกัน หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และหมั่นล้างมือเป็นประจำ