จากกระแสดราม่าพิมรี่พายกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่โด่งดังชั่วข้ามคืน จนแฮชแท็ก #พิมรี่พาย ติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ โดยต้นเรื่องคือนายทักษิณเอ่ยถึงพิมรี่พายเกี่ยวกับโรงพยาบาลสนาม แต่ไปกระทบรัฐบาล ซึ่งพิมรี่พายก็ตอบกลับนายทักษิณว่า อย่ามาพูดถึงตัวเอง ไม่อยากตายที่ต่างประเทศ ไม่อยากให้เอาชื่อตนไปเหน็บแนมใคร
หลังจากนั้นก็กลายเป็นกระแสติดกลับมาทันทีอย่างที่เป็นข่าวไปบางคนถึงกับกด unlike เพจพิมรี่พายจากคำพูดของเธอครั้งนี้ จนต้องออกมาพูดอีกรอบว่า ตนทำผิดอะไร สาเหตุที่ตนออกมาปกป้องตัวเองมันผิดเหรอ ก่อนพูดประโยคที่ทำให้เป็นดราม่าอีกรอบคือ“มึงโกรธกูไปเถอะเดี๋ยวกูปล่อยคลิปความดีมึงก็หายโกรธ เพราะว่ามึงดูเจตนากูไว้ ถูกไหม เจตนากูคือทำความดี ทำบุญนะ โอเคนะ เดี๋ยวก็บอกว่ากูอยู่ฝั่งนั้นฝั่งนี้อีก” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักกับคำพูดนี้ของเธอ #พิมรี่พาย ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ถ้าทักษิณเอ่ยชื่อถึงแล้วกลัว ก็แสดงว่าประเทศนี้มันประหลาดมาก ๆ
ซึ่งมีคนมองว่า การที่พิมรี่พายกลัวว่าจะไม่ได้อยู่ในประเทศนี้ เพียงเพราะทักษิณเอ่ยชื่อถึง แสดงว่าประเทศนี้มันไม่ปกติแล้ว และหลายคนแสดงความผิดหวัง ที่จริง ๆ ทักษิณก็เอ่ยถึงพิมรี่พายในทางที่ดี แต่กลับเป็นพิมรี่พายที่ตัดบัวไม่เหลือใย และยินดีที่พิมรี่พายเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนอื่น ๆ แต่ในทางเดียวกัน ก็อยากให้หันมาเป็นปากเป็นเสียง และเป็นกระบอกเสียงในการปรับแก้โครงสร้างทางสังคมบ้าง ไม่ใช่ช่วยเป็นครั้ง ๆ เป็นคน ๆ ไป ถ้าปรับโครงสร้างทางสังคมได้ ก็ช่วยได้ทั้งหมดทุกคนในคราวเดียว
ล่าสุดคืนวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 พิมรี่พาย ได้ออกมาแจงเรื่องดราม่านี้อีกรอบว่า ทำไมตัวเองต้องเบรกนายทักษิณไม่ให้พาดพิงถึงตนเอง เพราะมีผลกระทบมากมายดังนี้ “ต้องพูดให้เข้าใจ พิมรู้ดีว่าพิมไม่ได้เป็นคนที่พิเศษหรือวิเศษไปกว่าใคร รู้ดีว่าตัวเองแตะต้องได้ เพราะเป็นแค่แม่ค้าธรรมดา เป็นคนธรรมดา ทุกคนวิจารณ์ได้ แต่ยอมรับตามตรง แค่ 5 วินาทีที่คุณทักษิณพูดถึง แค่ 5 วินาทีนี้ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง” พิมรี่พายกล่าวและว่าเมื่อเช้าพิมซื้อของบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ โดยไม่ได้ทำเป็นคอนเทนต์ แค่ต้องการช่วยหลังบ้าน ซื้อของไป 2 แสนกว่า แต่แค่คุณทักษิณพูดถึง 5 วินาทีเมื่อคืน ของบริจาคถูกส่งไปตอนเช้า 9 โมง โดยไม่ประสงค์ออกนาม หน่วยงานนั้นให้เอาของกลับ ไม่รับของจากฉัน กลัวมีปัญหา นี่แค่ชม 5 วินาทีเอง”
ล่าสุด วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พิมรี่พาย ได้ออกมาแจงเรื่องดราม่านี้อีกรอบว่า ทำไมตัวเองต้องเบรกนายทักษิณไม่ให้พาดพิงถึงตนเอง เพราะมีผลกระทบมากมายดังนี้ “ต้องพูดให้เข้าใจ พิมรู้ดีว่าพิมไม่ได้เป็นคนที่พิเศษหรือวิเศษไปกว่าใคร รู้ดีว่าตัวเองแตะต้องได้ เพราะเป็นแค่แม่ค้าธรรมดา เป็นคนธรรมดา ทุกคนวิจารณ์ได้ แต่ยอมรับตามตรง แค่ 5 วินาทีที่คุณทักษิณพูดถึง แค่ 5 วินาทีนี้ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง” พิมรี่พายกล่าวและว่าเมื่อเช้าพิมซื้อของบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ โดยไม่ได้ทำเป็นคอนเทนต์ แค่ต้องการช่วยหลังบ้าน ซื้อของไป 2 แสนกว่า แต่แค่คุณทักษิณพูดถึง 5 วินาทีเมื่อคืน ของบริจาคถูกส่งไปตอนเช้า 9 โมง โดยไม่ประสงค์ออกนาม หน่วยงานนั้นให้เอาของกลับ ไม่รับของจากฉัน กลัวมีปัญหา นี่แค่ชม 5 วินาทีเอง”
พิมรี่พายเปิดเผยอีกว่า โดนอำนาจมืดข่มขู่จะตรวจสอบ ทั้งยังโดนแอคหลุมด่า หลังจากนายทักษิณพูดถึงตนเพื่อแซะรัฐบาล จึงเป็นเหตุผลให้เธอไม่อยากให้ใครนำตัวเองไปโยงกับการเมือง“ทำไมถึงไม่อยากให้โยงการเมือง เพราะฉันขยับตัวไม่ได้เลย ธุรกิจพิมทำอย่างสุจริตและเสียภาษี ระวังตัวที่สุด ให้คนไปขอตั้งโรงพยาบาลที่คลองเตย รออยู่ 2 อาทิตย์ เขาไล่ฉันกลับมา แถมยังต้องแบกรับภาระลูกน้องอีกหลายชีวิต แต่พอถูกโยงว่ามีปัญหา ความจริงโดนโยงมาหลายครั้ง แต่พูดไม่ได้”