เจ้าของกระทู้โพสต์ข้อความระบุว่า.. เนื่องด้วยกระผมเองและอีกหลายๆครัวเรือนกำลังประสบปัญหามากมายจากสุนัขจรจัดที่กระจายตัวเป็นกลุ่มทั่วหมู่บ้าน แบ่งพรรคแบ่งพวกอาศัยอยู่เกือบทุกซอยในหมู่บ้าน ทำให้ภาพที่เห็นจนชินตาคือ ช่วงเย็นทุกคนต้องถือไม้เพื่อวิ่งออกกำลังกายภายในหมู่บ้าน จักรยานล้มเพราะปั่นหนีสุนัข เด็กโดนกัด สุนัขของสมาชิกในหมู่บ้านโดนกัดตาย ช่วงเช้าขยะกระจายเต็มหน้าบ้าน (เรื่องขยะนี่ออกตัวนะครับว่าทิ้งลงถังดีแล้ว แต่เนื่องจากบางวันเวลารถขยะมาเก็บขยะ จะมีร่วงลงมาบ้าง ให้ทำสุนัขจรเหล่านี้ช่วยกันรื้อกันกระจัดกระจาย)
จากที่เกริ่นมาข้างต้น เป็นแค่ปัญหาส่วนหนึ่งเท่านั้น และขอตัวก่อนว่าบ้านผมเป็นบ้านที่รักสุนัขมาก ทุกๆช่วงอายุตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงรุ่นปัจจุบัน จะต้องมีสุนัขเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกของบ้านมาตลอดร่วม 100 ปี ที่จะบอกก็คือ ผมไม่ได้เป็นคนจิตใจโหดร้ายอะไรกับสุนัขจรจัดหรือสัตว์โลก ออกแนวจะเอ็นดูและสงสารด้วยซ้ำไป
ต้นเหตุที่ปัญหาบานมาจนถึงจุดที่มีสุนัขจรจัด 150 กว่าตัวนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหมู่บ้านปล่อยปละละเลย อีกส่วนหนึ่งก็คือมีคนกลุ่มเล็กๆที่เรียกตัวเองว่าผู้มีเมตตาคอยปกป้องและให้อาหาร แต่ไม่เคยรับปิดชอบอะไรกับเหตุการร้ายแรงจากสุนัขจรจัด และเนื่องด้วยหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ถนนสาธารณะของ กทม. (ถนนภายในหมู่บ้านเท่านั้นที่เป็นของ กทม. แต่ค่าใช้จ่าย และสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นของหมู่บ้านซึ่งสมาชิกจ่ายค่าส่วนกลาง)
และการที่หมู่บ้านไม่ได้มีเจ้าของที่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาดนั้นทำให้การดำเนินการอะไรแต่ละอย่างเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่ในวันนี้สมาชิกและกรรมการหมู่บ้านเริ่มมองเห็นปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเกิดแผนการปฏิรูปขึ้นเพื่อที่จะกำจัดสุนัขจรจัดเหล่านี้ให้หมดไป โดยผ่านการสอบถามความเห็นของสมาชิกในหมู่บ้านแล้ว มีเพียงแค่ส่วนน้อยจำนวนหลักหน่วยเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นเมื่อเสียงส่วนมากลงความเห็นว่าควรจัดการ หมู่บ้านจึงเริ่มดำเนินการตามแผนจับสุนัขไปไว้ที่ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดทันที(ขอไม่เอ่ยชื่อสถานที่) แต่แล้วปัญหาที่ตามมาก็คือ... (ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงพอจะเดาปัญหากันได้บ้างแล้ว)
กลุ่มคนเล็กๆกลุ่มนี้รับไม่ได้กับการจับสุนัขจรจัด ซึ่งทางหมู่บ้านก็ชี้แจงแล้วว่าไม่ได้เอาไปทำการการุณยฆาต หรือเอาไปทรมาณใดๆทั้งนั้น แต่จับเพื่อนำมันไปอยู่ในที่ที่สมควรอยู่ ที่ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงสุนัขจรจัดโดยเฉพาะ และที่สำคัญเรื่องของค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูงในราคา 5,000 ต่อตัว แต่จะดูแลอย่างดีจนตาย (5,000 x 150 = 750,000 บาท) ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ประธานหมู่บ้านผู้ซึ่งอาวุโสและทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้านมาแล้วมากมายท่านอาสาออกเงินเองโดยไม่ใช้เงินส่วนกลางของหมู่บ้าน แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเจรจาด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม กลุ่มคนจิตใจเมตตากลุ่มนี้ก็ยังคงไม่ยอมรับ และนำจุดอ่อนของหมู่บ้านมาเป็นหัวข้อหลักในการโต้แย้งคือ "หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสาธารณะของ กทม. หมู่บ้านไม่สามารถดำเนินการเองได้ตามใจชอบ"
ใช่ครับ... นั่นคือประโยคปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในการดำเนินการ เพราะการขอให้เทศกิจมาช่วยจับสุนัขเหล่านี้ไปก็ไม่เคยได้รับการตอบรับใดๆกลับมา ทำให้สุดท้ายแล้วทางหมู่บ้านต้องยอมถอยออกมาเพื่อหาทางกันใหม่ ผมเองนั้นเป็นสมากชิกหมู่บ้านคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์และพยายามช่วยเจรจา แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ และคิดว่าในเร็วๆนี้จะต้องมีการรีแมทช์ถกเถียงกันเรื่องนี้อีก ผมจึงอยากจะขอความเห็น ข้อกฎหมาย หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้กลุ่มคนกลุ่มนี้เข้าใจและยอมถอยให้ทางหมู่บ้านได้ดำเนินการ
ที่มา : สมาชิกพันทิปหมายเลข 3747369