"สุนัขดมกลิ่น" บทบาทสำคัญตัวช่วยสแกนผู้ป่วยโควิด-19 ในสนามบิน

25 พฤษภาคม 2564

สื่อสหราชอาณาจักรรายงานว่าสุนัขดมกลิ่นอาจมีบทบาทสนับสนุนกระบวนการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่สนามบินหรืองานที่มีฝูงชนหนาแน่น เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำนักข่าวบีบีซีเปิดเผยการทดลองฝึกฝนสุนัขให้จดจำกลิ่นพิเศษจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่จมูกมนุษย์ไม่สามารถตรวจจับได้ โดยเจมส์ โลแกน หัวหน้านักวิจัยจากวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเดอรัม กล่าวว่าการทดสอบดมกลิ่นอาจเหมาะสมกับการตรวจคัดกรองขนานใหญ่
 

แคลร์ เกสต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ขององค์กรการกุศลสุนัขเพื่อการตรวจหาทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ฝึกฝนสุนัขเหล่านี้ ระบุว่าผลการวิจัยดังกล่าวเป็น “หลักฐานเพิ่มเติมว่าสุนัขเป็นหนึ่งในเครื่องตรวจจับทางชีวภาพที่เชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับการค้นหากลิ่นโรคในมนุษย์”

รายงานระบุว่าสุนัขดมกลิ่นตรวจจับผู้มีผลตรวจโรคเป็นบวกราวร้อยละ 88 ซึ่งหมายความว่าสุนัขคัดกรองผู้ติดเชื้อตกหล่นเพียง 12 รายจากกลุ่มผู้ป่วย 100 ราย และตรวจจับผิดพลาดว่าคนสุขภาพดีเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 14 คน จากกลุ่มคนสุขภาพดี 100 คน

ทีมวิจัยกล่าวว่าสุนัขอาจเป็นเครื่องมือตรวจคัดกรองเพิ่มเติมควบคู่กับการทดสอบแบบดั้งเดิม โดยการตรวจคัดกรองด้วยสุนัขตามด้วยการทดสอบเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจะทำให้สามารถตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ถึงร้อยละ 91

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าข้อได้เปรียบแท้จริงของการใช้สุนัขตรวจหาผู้ป่วยคือความรวดเร็ว เนื่องจากสุนัข 2 ตัวสามารถคัดกรองผู้คน 300 คนภายในเวลาครึ่งชั่วโมง

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 2,235 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 4,462,538 ราย ขณะเดียวกันมีผู้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้วเกือบ 38 ล้านคน หรือมากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในประเทศ

ปัจจุบันสหราชอาณาจักรยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางไปต่างประเทศแล้ว โดยอนุญาตประชาชนเดินทางออกนอกประเทศไปยังกลุ่มประเทศสีเขียว (green-list countries) ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. และไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อเดินทางกลับมา โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรจะมุ่งยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมตามกฎหมายทั้งหมดตามแผนงานภายในวันที่ 21 มิ.ย. นี้

\"สุนัขดมกลิ่น\" บทบาทสำคัญตัวช่วยสแกนผู้ป่วยโควิด-19 ในสนามบิน

ที่มา xinhuathai