จากกรณีที่ทางด้าน ปลาคาร์ฟ เชิญยิ้ม ยังได้กล่าวเรื่องราวชวนน้ำตาซึมว่า ตอนนี้ก็มีคนช่วยบ้าง แต่คนแรกที่โทรมาคือ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ทั้งๆที่เราไม่เคยร่วมงานกับเขาเลย เขาก็ถามว่าเราเป็นยังไง เขาบอกอยากช่วย เขาบอกเราว่าเราเป็นตลกที่เขาชื่นชอบเรา อยากช่วยเรา
เรารู้สึกว่าทุกคนลำบากกันหมด ก็ไม่อยากรบกวน เขาก็บอกให้เอาเลขบัญชีมาก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง ผมก็ให้เลขบัญชีเขาไป เขาก็โอนเงินมาให้เยอะมาก ผมก็บอกกับเขาว่ามันเยอะเกินไป เดี๋ยวผมจะคืนเขา เราก็ซาบซึ้งใจคนที่ช่วยเราตอนที่เราลำบาก เราก็จะจดจำไปชั่วชีวิต ซึ่งไม่ได้มีแค่น้องนุ๊กคนเดียว แต่ยังมีเพื่อนๆ ที่เป็นห่วงเราก็ต้องขอบคุณน้องนุ๊กตรงนี้ ถ้าชีวิตผมร่ำรวยเมื่อไหร่ผมจะไปคาราวะถึงบ้านเลย
ซึ่งในรายการก็ได้มีการต่อสายตรงถึง นุ๊ก สุทธิดา โดยทางด้าน นุ๊ก สุทธิดา ได้เปิดใจว่า เราชื่นชอบพี่ปลาคาร์ฟมาก ที่ผ่านมาเราก็โอกาสได้ช่วยเหลือหลายๆ ท่าน แต่เราไม่ได้โพสต์หรือบอกใคร ของพี่ปลาคาร์ฟเป็นกรณีพิเศษมากๆ เพราะไม่ใช่แค่นุ๊กให้พี่ปลาคาร์ฟ แต่พี่เขาก็ให้นุ๊กกลับ คือนุ๊กเห็นความเป็นนักสู้ของเขาเวลาเห็นสัมภาษณ์ เราเห็นว่าเขามีทั้งความเป็นนักสู้ มีความสมถะ และมีศักดิ์ศรี ซึ่งตอนที่นุ๊กโทรไปนุ๊กคิดนานเหมือนกันว่าเราจะพูดอย่างไร เพราะค่อนข้างลำบากใจกับการที่จะคุยกับเขา เพราะเราเห็นความเป็นนักสู้ ความมีศักดิ์ศรีของเขา แล้วเขาก็พูดทิ้งท้ายว่าเขาไม่ได้รับบริจาค เราก็ต้องคิดว่าเราจะพูดอย่างไรให้เขารู้สึกดี
เกือบทุกคนที่ออกมาบอกว่าเป็นแบบนี้เราก็ช่วยเหลือหมด นุ๊กเห็นพี่ปลาคาร์ฟแล้วนุ๊กรู้สึกเห็นตัวเอง นุ๊กรู้ว่าพี่ปลาคาร์ฟก็เป็นนักสู้คนหนึ่ง อย่างทุกวันนี้ที่เรามีกินมีใช้ก็เพราะเราหาด้วยตัวเอง แน่นอนว่าบางครั้งเราอาจจะมีเหนื่อยบ้างอะไรบ้าง และก็ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตของคนเรา