โดยอ้างว่า มีลอตเตอรี่ในโควต้า สามารถนำไปจำหน่ายทำกำไรได้ ตนเองหลงเชื่อจึงได้ไปเชื้อเชิญสมัครพรรคพวก คนรู้จัก ให้มาลงทุนซื้อลอตเตอรี่จากยี่ปั๊วที่แอบอ้างว่ามีโควต้า โดยโอนเงินไปกว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่ได้ลอตเตอรี่ตามจำนวนที่โอน ยังคงเหลือยอดเงินในส่วนที่ขาดอีกกว่า 11.75 ล้านบาท จึงได้มาร้องเรียนขอให้ทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือดังกล่าว
สมรักษ์ เผยว่า ตนเองได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก ว่าสามารถจัดสรรโควต้าลอตเตอรี่เป็นจำนวนมากให้ไปจำหน่าย สร้างกำไรให้กับตนเอง และเพื่อนฝูงได้ โดยแนะนำให้ตนรู้จักกับนางปารมี หรือ หญิง อายุ 65 ปี ซึ่งบอกว่ามีโควต้าลอตเตอรี่จำนวนมาก สามารถนำไปจำหน่ายทำกำไรได้ โดยเมื่องวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ตนเองได้จองหวยไปเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เพื่อนฝูงชาวบ้าน คนรู้จัก และไว้ใจตนเอง พากันโอนเข้าบัญชีมาให้เพื่อให้ตนนำไปซื้อล็อตเตอรี่จากนางปารมี ซึ่งก็ได้ลอตเตอรี่มาจำหน่ายตามที่ตกลงกัน
หลังจากนั้น วันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ นางปารมีได้บอกกับตนว่า มีลอตเตอรี่จำนวนมากในโควต้าของวันที่ 16 ก.พ. 64 ต้องการไหม? ตนจึงได้โอนเงินจำนวนกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ชาวบ้าน เพื่อนฝูง คนสนิท รวมทั้ง โค้ชทีมชาติ นักกีฬาทีมชาติ ที่เป็นพรรคพวกกัน และไว้ใจตนเองให้ไปจัดสรรซิ้อลอตเตอรี่มาเพื่อทำกำไร โดยนางปารมีให้โอนเงินเข้าบัญชีมาให้ ตนจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กับนางปารมี โดยนางปารมีได้ให้ตนเองโอนเข้าบัญชีของพรรคพวกเขาหลายชื่อ หลายบัญชี แล้วบอกว่า แบ่งกันไปตามโควต้าของเขาแต่ละบัญชี
ซึ่งหลังจากโอนเงินไปแล้ว ปรากฏว่าตนเองกลับไม่ได้ลอตเตอรี่ตามที่โอนเงินไปในงวดนั้นแต่อย่างใด เมื่อเอ่ยปากทวงถามจากนางปารมี ก็ได้รับคำตอบว่า นายใหญ่กำลังประสานและดำเนินการให้อยู่ แต่เวลาเนิ่นนานผ่านไปหลายเดือนแล้วก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ตนเองจึงบอกไปว่าจะแจ้งความดำเนินคดีแล้วนะ ทางนางปารมีจึงได้ทยอยชดใช้ให้มาจนเหลือที่ยังค้างอยู่ 11.75 ล้านบาท
ทางด้าน นางปารมี พอได้ทราบข่าว ก็รีบโทรเข้ามา ขอให้สมรักษ์อย่าเพิ่งแจ้งความหรือร้องเรียนทนายรณรงค์ เดี๋ยวจะโอนเงินให้เพิ่มอีก 50,000 บาท แต่สมรักษ์ได้ปฏิเสธไป และขอให้ชดใช้ในส่วนที่ยังคงติดค้างไม่ใช่ใช้ให้เพียงแค่นี้ เพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินของชาวบ้าน คนสนิท พรรคพวกในวงการ ซึ่งตอนนี้ตนเองถูกทวงถามทุกวัน บางรายต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายให้เขาไปด้วยความสงสาร ทำให้ตนเข้าเนื้อ หมดไปกว่า 3 ล้านบาทแล้ว ขอให้นางปารมีและพรรคพวกนำเงินมาคืนให้กับพวกเขาด้วย เพราะตนรู้สึกสงสาร บางรายมาลงทุน 2-3 แสนบาท แต่ก็ถูกโกงไม่ได้ลอตเตอรี่ไปขาย เลี้ยงครอบครัวเลย
ส่วนทางด้าน ทนายรณณรงค์ เผยว่า คดีนี้ ตนเองจะติดตาม ตรวจสอบ ในด้านเอกสาร การโอนเงิน รวมทั้งความเชื่อมโยงของการซื้อขายลอตเตอรี่ เพราะเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ถือว่าเป็นการฉ้อโกง หากผู้แอบอ้างรายนี้ไม่มีโควต้าการจำหน่ายสลากลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจริงๆ ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกงทันที