จากกรณีที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจับกุม นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ในคดีน้องชมพู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวนายไชย์พล โดยมี นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ร่วมโดยสารมากับเฮลิคอปเตอร์ เพื่อบินกลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร หลังเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน ตามที่ปรากฎเป็นข่าว
ขณะที่ทางเพจเฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก มีรายงานข่าวแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการบินเพื่อนำตัวลุงพล ไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร มีค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 70,000 บาท ซึ่งหลังจากส่งตัวลุงพลไปดำเนินคดีเสร็จสิ้น โดยเที่ยวกลับต้องนำตำรวจที่ควบคุมตัวลุงพลไปส่งกลับมาที่กรุงเทพฯ โดยรวมระยะเวลาภารกิจนำผู้ต้องหาตามหมายจับขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจไปดำเนินคดี รวมไปกลับ 4 ชั่วโมง 40 นาที มีค่าใช้จ่ายกว่า 3 แสนบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียไป โดยทางเพจได้ตั้งคำถามว่า "งบประมาณนั้นส่วนหนึ่งมาจากภาษีของประชาชนหรือไม่อย่างไร"
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบการใช้อากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ลำใดจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารและระยะทางมาประกอบกัน ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ที่ปรากฏในข่าวเป็นเครื่องประจำการที่ใช้ในกิจการหลักของ ตร.อยู่แล้ว ไม่ใช่ ฮ.พิเศษวีไอพี ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด
ขอบคุณ FB : ดาวแปดแฉก