ซึ่งวันนี้พ่อแม่พี่สาวของน้องชมพู่ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง จะเดินทางไปที่ศาล พร้อมทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัวลุงพล โดยให้เหตุผลเกรงว่า ผู้ต้องหาจะข่มขู่ และเข้าไปยุ่งเหยิงเกี่ยวกับพยานหลักฐานคงต้องรอติดตามลุ้นชะตากรรมของลุงพลว่าวันนี้จะได้รับการประกันตัวหรือไม่
ทั้งนี้อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจคือกรณี คน2ซิม จากรายงานของตำรวจ เนื่องจาก น้องชมพู่ หายไปวันที่ 11 พ.ค.63 ตำรวจรู้ว่าลุงพลไม่มีมือถือ แต่ลุงพลอ้างว่าวันที่ชมพู่หาย ป้าแต๋นโทรมาตัวเองจึงรู้ว่าน้องชมพู่หาย แต่ลุงไม่มีมือถือลุงจะรับสายยังไง ตำรวจจึงเจอคำว่าคน2ซิม คือ ลุงพลไม่มีมือถือแต่ลุงพลเอาซิมโทรศัพท์ไปใส่ในเครื่องป้าแต๋น ซึ่งเครื่องป้าแต๋นใส่ได้2ซิม ที่บอกว่าลุงพลรับสายเมียจึงเป็นไปไม่ได้ เป็นที่มาลุงพล2ซิม ลุงไม่มีมือถือแล้วรู้ได้ยังไงว่าหลานหาย
โดยเรื่องนี้ล่าสุด ป้าแต๋น ออกมาเผยแล้วว่า ที่บ้านใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว รายงานข่าวที่บอกว่าลุงพลรับโทรศัพท์ไปเอามาจากไหน ถามว่าแล้วตอนลุงพลรู้เรื่องน้องชมพู่รู้ได้อย่างไร ป้าแต๋น กล่าวว่า มีการไปบอกที่หน้าบ้านป้าถอน ตัวเองเดินมาบอกกับลุงพลที่หน้าบ้านป้าถอน ไม่ได้ใช้โทรศัพท์โทรหาใครทั้งนั้น เพราะที่บ้านใช้มือถือเครื่องเดียวมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่น้องชมพู่จะหายไปอีก ลุงรู้จากป้า แกมารู้ที่หน้าบ้านป้าถอน ให้ปากคำไปแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเพราะผ่านมาปีหนึ่งมันก็ยังเหมือนเดิม
ถามว่ากังวลเรื่องนี้ไหม ป้าแต๋น กล่าวว่าไม่มีความกังวลอะไร มีแต่ตั้งหลักสู้ เพื่อหาความยุติธรรมให้ลุงกับป้าและครอบครัวแค่นั้น ด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ เรื่องซิม 2 ซิม ส่วนตัวสอบถามลุงพลแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยให้การแบบนั้น ตนเองมองว่าต้องไปถามตำรวจคนที่ให้ข้อมูล เรื่องการกลับคำให้การ หรือให้การไม่ตรงกัน ตนจึงอยากรู้ว่าใครเป็นคนให้ข่าว ตำรวจคนไหน แล้วตำรวจที่อ้างว่าลุงพลให้การเช่นนั้นอยู่ไหน ตนขอดูเอกสาร ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีผลอะไรกับทางคดี
ขอบคุณทุุบโต๊ะข่าว