หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่ง อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว ลุงพล นายไชย์พล วิภา โดยวางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว ท่ามกลางความดีใจของป้าแต๋นภรรยา และบรรดาแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจก็ต่างเฮลั่น เเห่มอบช่อดอกไม้ให้ลุงพล
ซึ่งทางเพจของทนายตั้ม ..ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ... ก็ได้เคลื่อนไหวว่า ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล!! วางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว
เช่นเดียวกับเฟซบุ๊คของ ลุงพล ก็ได้มีโพสต์เเรกหลังจากได้รับการประกันตัวรอดนอนคุก ด้วยข้อความ ...กลับบ้านแล้วนะลุง..ขอบคุณทุกๆคนจ้าสู้ๆ อย่างไรก็ตามจากภาษาในโพสต์ น่าจะไม่ใช้ลุงพลโพสต์เอง คาดว่าอาจจะเป็นข้อความจากป้าเเต๋น หรือคนอื่นๆ ซึ่งก็มีเเฟนคลับมิตรรักเเห่มาคอมเมนต์ให้กำลังใจกันเพียบ หลักพันคอมเมนต์ ให้ลุงพลสู้ๆต่อไป
ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนสภ.กกตูม นำตัว นายไชยพล หรือพลวิภาอายุ 45ปี ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร ,ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”
โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 63 ช่วงเวลา 9.00-9.45 น.ผู้ต้องหาได้พาตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพูวงศ์ศรีชาอายุ 3 ปี2เดือนซึ่งเป็นลูกสาวของนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดาและนายอนามัย วงศ์ศรีชาบิดาไปในขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ. มุกดาหารของตนติดกับบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2ต.กกตูม อ. ดงหลวงจ. มุกดาหาร โดยปราศจากเหตุอันสมควรจากนั้นได้นำตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ ไปซุกซ่อนและทอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวงจ.มุกดาหารทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังโดยปราศจากผู้ดูแล แล้วไปทำธุระรับส่งพระหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามหาตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ แต่ไม่พบตัวภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระจึงย้อนกลับมานำตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่
ซึ่งยังไม่เสียชีวิตและพยายามเดินหาทางกลับบ้านขึ้นไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้งให้พ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กหญิงอรวรรณซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3ปี2เดือนไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟที่ถูกปล่อยทอดทิ้งไว้ได้จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟในเวลาต่อมาจากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของเด็กหญิงอรวรรณฯ และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพโดยถอดเสื้อผ้าจัดท่าทางของศพเพื่อให้เข้าใจว่ามีการประทุษร้ายทางเพศต่อเด็กหญิงอรวรรณ และใช้ของแข็งมีคมตัดสับฟันไปที่เส้นผมของเด็กหญิงอรวรรณ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางไสยศาสตร์อันเป็นการกระทำการแก่ศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปโดยได้พบศพเด็กหญิงอรวรรณฯ นอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟชั้นที่ 5 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอกไปประมาณ 1.3กิโลเมตรในวันที่ 14 พ.ค.63 เวลาประมาณ 19.00 น.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารลงวันที่ 1 มิ.ย.64 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306มาตรา 308และมาตรา 317และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150ทวิมีอายุความดำเนินคดี 15ปี
โดยพนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 16.33 น. ซึ่งได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดจะครบ 48 ชั่วโมงในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา16.33 น.หาก แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมในคดีอีก 15ปากรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12วัน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่นจึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
ขอบคุณภาพ
แสวง รูปดี nationtv22