หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย

หญิงลี เผยข้อสงสัยที่ตนเก็บง่ำเอาไว้เมื่อครั้งร่วมงานกับลุงพล หลังได้ฟันคำแถลงของลุงพลที่ตอบสื่อไปครั้งได้รับการประกันตัว มันผิดจากที่เคยฟังมาอย่างสิ้นเชิง จนค้างคาใจมาว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไรกันแน่
จากกรณี นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ได้ประกันตัวในคดีดังกล่าว โดยวางหลักทรัพย์ 1.8 แสน พร้อมเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1. ห้ามหลบหนี 2. ห้ามข่มขู่พยาน 3. ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหรือห้ามก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และ 5. ให้แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านกกตูม เป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทางด้าน ลุงพล ได้เปิดใจว่า ขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ให้ความยุติธรรม ต่อไปขอมอบหมายให้ทนายตั้มดำเนินการสู้คดีตามกฎหมาย เมื่อถูกถามว่ารู้สึกอัดอั้นตันใจไหมที่ต้องมาสู้คดีน้องชมพู่ ลุงพลกล่าวเพียงว่า เหมือนที่ตนร้องเพลงทุกอย่าง จากนั้น ลุงพล เริ่มน้ำตาคลอเบ้า เผยว่า ที่ผ่านมาตนไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ทำมาหากินธรรมดา เรื่องไปยุ่งกับพยานหลักฐานเป็นความเท็จ เพราะยูทูบเบอร์ก็เกาะติดชีวิตอยู่แล้ว จะไปยุ่งพยานหลักฐานที่ไหน เวลาเดียวที่ไม่ได้เผยแพร่คือเวลาหลับนอนเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ร้องเพลงที่โรงพักนั้น ลุงพลกล่าวด้วยเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า บอกว่า คิดถึงหลานชมพู่มาก เชื่อว่าตอนนี้หลานคงไปอยู่ภพภูมิที่ดีกว่าแล้ว
ทั้งนี้อีกหนึ่งคนที่เคยร่วมงานกับลุงพล อย่าง หญิงลี ศรีจุมพล หรือ น.ส. ธิดารัตน์ ศรีจุมพล อายุ 38 ปี นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก็ได้ออกมาเผยข้อสงสัยที่ตนเก็บง่ำเอาไว้เมื่อครั้งร่วมงานกับลุงพลหลังได้ฟันคำแถงของลุงพลที่ตอบสื่อไปครั้งได้รับการประกันตัว มันผิดจากที่ตนเคยฟังมาอย่างสิ้นเชิงโดยหญิงลี กล่าวว่าตอนนั้นคิดว่าลุงพลเป็นแพะ ถูกโจ่มตีหนักจนตนเห็นใจ ซึ่งตอนนั้นหญิงลีรับว่าลืมคิดถึงความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่
จึงติดต่อหางานให้ลุงพล และจนได้ขึ้นเวที แต่ไม่เคยขึ้นเวทีพร้อมกัน เพราะลุงพล ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนั้น และทำงานร่วมกันได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ค่าตัวลุงที่หญิงลีให้ครั้งละประมาณ 20,000 - 40,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดี จากการสังเกตระหว่างที่ทำงานด้วยกัน ลุงพลมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับน้องชมพู่ให้ฟัง และบางครั้งมักจะไปนั่งซึมเศร้า
ต่อมาหญิงลีเห็นภาพในข่าวช่วงลุงพลแถลง ลุงพลกล่าวว่า วันที่น้องชมพูหายไป เป็นวันที่ตนไม่เห็นหน้าน้องชมพู่เลย ซึ่งเป็นคำพูดที่สวนกับความรู้สึกของตนเองทันที เพราะวันแรกที่พบกันที่รีสอร์ต ลุงพลเล่าให้ฟังว่า วันนั้นน้องชมพู่รบเร้าจะไปด้วย ถ้าพาหลานไป หลานคงจะไม่เสียชีวิต คำพูดคำนั้นทำให้ตนติดใจ และค้างคาใจมาโดยตลอด ซึ่งทั้งหมดทั้งม้วนก็ยังเห็นใจลุงพล แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการความยุติธรรมด้วย

คาดไม่ถึง เปิดอายุที่แท้จริง "อิลสลิก" แร็พเปอร์ชื่อดัง

กัน จอมพลัง เตือนทีมติดตามนายก หลังไปเยี่ยมเต็นท์ผู้ประสบภัย

ของจริง "หนุ่ม กรรชัย" ลั่นตรง ๆ กลางโหน "พี่ฝากบอกอิลด้วย"

ผู้ว่าฯกทม. ตอบแล้ว หมายความว่าไง หลังเครื่องสแกนตรวจพบ 50 - 60 คน
