สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ลักลอบเข้าไปกางเต็นท์พักแรม บริเวณเกาะในเขื่อนแก่งกระจานซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยาน ฯ เป็นพื้นที่สันโดษไม่ได้จัดไว้เพื่อกิจกรรมนันทนาการแต่อย่างใด
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เดินทางถึงพื้นที่ดังกล่าวพบกลุ่มบุคคลประมาณ 10 คน ได้กางเต็นท์พักแรมอยู่บนเกาะในเขื่อนแก่งกระจาน ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 8 กม. นอกจากนี้ยังมีการประกอบกิจกรรมตกปลาและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในบริเวณดังกล่าว
จากการสอบถามทราบว่ากลุ่มบุคคลทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาดำเนินกิจกรรมในบริเวณดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่ากระทำการดังกล่าวอาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่นหรือตนเอง หรือจะเป็นการรบกวน หรือเดือดร้อนรำคาญแก่คนหรือสัตว์ป่า หรือจะทำให้เสียหายแก่สภาพ หรือระบบนิเวศ และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมได้แจ้งให้กลุ่มบุคคลทั้งหมดทราบว่า การเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 20 พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 47 , มาตรา 52 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้วางมาตรการอย่างเคร่งครัดในการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 โดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ประชุมร่วมกับชุมชนและผู้นำชุมชนถึงแนวทางปฏิบัติรวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันมาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช