นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ สธ. "ไม่มีการเลื่อนฉีดวัคซีน" ทั้งนี้ทุกโรงพยาบาลต้องทำตามนโยบาย หากมีปัญหาต้องปรึกษา นพ.สสจ.หรือผู้ตรวจฯ เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ใช้ดุลพินิจหยุดหรือเลื่อนฉีดเอง
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี การประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ไม่มีเลื่อนทุกโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ ตามที่ศบค. สธ. และพื้นที่เห็นชอบ ดังนั้น ไม่มีการเลื่อนในส่วนของ สธ. แต่ส่วนอื่นที่รับวัคซีนไปลักษณะองค์กรหรือหน่วยงานแล้วไปจ้างที่ไหนฉีดแล้วเลื่อนก็เกินความสามารถที่ สธ.จะติดตามไปดูแล เพราะ สธ.มีหน้าที่กระจายวัคซีนไปกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เราทำได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง
นายอนุทินกล่าวว่า "ผมเอาคำถามผู้สื่อข่าวไปถามปลัด สธ.และอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า ฉีดวันที่ 7 มิ.ย.วันเดียวหรือไม่ ทั้งสองท่านก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องฉีดไปเรื่อยๆ จนครบกลุ่มเป้าหมาย ตอนนี้ต้องทำความเข้าใจกับหน่วยบริการ เรามีวัคซีนเท่านี้ที่ส่งไปในแต่ละสัปดาห์ ขอให้วางแผนการฉีดให้ดี อย่าเพิ่งเร่งฉีดจนหมด ต้องวางแผนทั้งเข็ม 1 และเข็ม 2 วางแผนฉีดในจำนวนที่ทำให้เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ตามซัพพลายวัคซีนที่มีมา ต้องบริหารการฉีดให้สอดคล้อง ไม่ใช่ทำจนเกินขีดความสามารถ"
เมื่อถามถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการติดตามถามว่าทำไมถึงเลื่อน ไม่ได้เป็นการเอาผิด เพราะปกติหน่วยงานในสังกัด สธ.นั้น เมื่อปลัด สธ.สั่งการชัดเจนก็ต้องทำตาม หากมีคนเลื่อน คำสั่งของปลัด สธ.มีความหมายหรือไม่ แล้วถ้า โรงพยาบาลเลื่อนก็ต้องถามทำไมถึงเลื่อน เพราะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่างๆ ควรปรึกษาหารือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ก่อน ถ้าหาข้อสรุปไม่ได้มีผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นตัวแทนปลัดในการแก้ปัญหาอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ควรต้องร่วมมือกันรายงานกันก่อนตัดสินใจใดๆ
"เรื่องวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ข้าราชการประจำหรือการเมืองต้องให้ความสำคัญสูงสุด ต้องสื่อสารกันทั้งสองฝ่าย หากมีปัญหาต้องแจ้ง จะได้แก้ปัญหาให้ ไม่ใช่หยุด เพราะหากหยุดคนที่เดือดร้อนคือประชาชน ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่ใช่แพทย์ พอประกาศเลื่อนคนมาถึงแล้วไม่มีวัคซีนฉีดจะทำอย่างไร จะมาบอกว่าไม่มีวัคซีนหรือมีไม่พอ จะมีไม่พอได้อย่างไร ในเมื่ออธิบดีกรมควบคุมโรคส่งไปทั้งหมดแล้ว ตอนมี 2 แสนกว่าโดสก็ส่งไป 3,600 โดส ในแต่ละจังหวัด พอมี 1.8 ล้านโดสก็ส่งไปตามสูตรที่นายกฯ มอบหมาย เอาจังหวัดหาร คูณประชากรและปัจจัยเสี่ยง มีการคำนวณชัดเจน"
นายอนุทินกล่าวว่า ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่รับผิดชอบเขตที่มีปัญหา รายงานว่า ผอ.รพ.ท่านนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งตนบอกว่าไม่ใช่คำตอบ จะมีความเป็นตัวเองสูงหรือมีความเป็นตัวตนอย่างไร การเป็นข้าราชการต้องปฏิบัติตามนโยบายและคำสั่งผู้บังคับบัญชา การกระจายวัคซีนและให้บริการประชาชนภายใต้วาระแห่งชาติของรัฐบาลก็เหมือนคำสั่ง เพราะฉะนั้นจะใช้ดุลพินิจเฉพาะการทำให้การฉีดวัคซีนให้ประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ใช้ดุลพินิจว่าวันนี้จะหยุดฉีดหรือขอเลื่อนก่อน เพราะรู้สึกยังไม่เกิดความพร้อม ถ้าทุกคนรู้สึกอย่างนี้หมดก็ไม่ต้องฉีดพอดี