เมื่อกลางดึกของคืนวันที่8มิ.ย.64 เกิดเหตุสลดขึ้นภายในบ้านพักของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เป็นเหตุหญิงอายุ46 ปี นอนหมดสติเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน เเอสตร้าเซเนก้า โดยร้อยเวรสอบสวน สน.บางเขน จึงเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง และเมื่อสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบข้อมูลว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายไปเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มา จากนั้นเวลา18.30น. เริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดเมื่อยอ่อนเพลียจึงกินยาบรรเทาอาการปวด 2 เม็ด ต่อมาเริ่มมีอาการปวดศีรษะคล้ายไมเกรน จึงกินยาแก้อาการปวดศีรษะไมเกรน ที่เป็นโรคประจำตัว จนกระทั่งเวลา 22.00 น. ผู้ตายมีอาการหายใจสำลัก ชักเกร็งและหมดสติไป
โดยนายสุขชัย องค์สุระชัย อายุ 61 ปี เพื่อนบ้าน เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 4 ทุ่ม สามีของผู้เสียชีวิต มาตะโกนเรียกที่หน้าบ้าน บอกว่าภรรยาหมดสติ ตนเองพร้อมลูกชายจึงเข้าไปช่วยเหลือ
กระทั่งเข้าไปภายในห้องนอนที่ตั้งอยู่บนชั้น2ของบ้าน พบผู้เสียชีวิตนอนหมดสติอยู่บนเตียงใน ลักษณะคล้ายคนกำลังนอนหลับ ตามร่างกายไม่พบร่องรอยคราบเลือด ไม่พบฟองสีขาวที่บริเวณปาก จากนั้นได้โทรเรียรถพยาบาลให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยแพทย์แจ้งว่ารถจะเข้ามาภายในอีก15นาที ระหว่างนี้ให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจ กระทั่งรถพยาบาลมาถึงจึงพบว่าร่างของผู้เสียชีวิตเริ่มแข็งแล้ว
ซึ่งเมื่อคืนประมาณเวลา 22.00 น รถพยาบาลมาผมก็ไม่ได้ดูเวลานะ ก็เมื่อวานนี้เห็นน้องนุ่นที่เป็นหลานบอกว่ามาประมาณ 5ทุ่มเศษๆ ไปถึงแกก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่มีน้ำลายฟูมปาก ไม่มีเลือด ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คือข่าวที่ออกไปมีน้ำลายฟูมปากก็ดี มีเลือดออกก็ดี ไม่มีครับช่วงที่ผมเข้าไปไม่มีเลย แต่เข้าใจว่าที่เลือกออกน่าจะเกิดตอนที่ช่วงรถพยาบาลทำcpr ต่อ ช่วงที่ผมกับลูกช่วยกันปั๊มหัวใจไม่มี ไม่มีครับปกติ เหมือนคนนอนปกติ เพียงแต่ว่านิ่ง
นายสุขชัย เล่าเพิ่มเติมว่า ภายหลังเกิดเหตุมาทราบข้อมูลจากสามีผู้เสียชีวิต ว่าผู้ตายไปเข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อแอสต้าเซเนก้า ที่ศูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ ย่านพหลโยธิน เมื่อช่วงเวลา11.50 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่าน
ในขณะที่ตนเองทราบว่าที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตมีไมเกรนเป็นโรคประจำตัวที่จะต้องรับประทานยา ส่วนสุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บป่วยหนักจนถึงขั้นต้องเข้าออกโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น ตนเองไม่อยากปักใจเชื่อ แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลเนื่องจากตนเองได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ไว้เช่นเดียวกัน
เห็นแบบนี้ก็หวั่นๆ แต่ก็คิดว่าไปครับเพราะมันไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นเช่นว่าวัคซีนตัวอื่นที่ไม่ใช่แอสตร้าฯ ผมก็คงไม่ฉีดแอสตราเซเนกา เพียงแต่ว่านี่คืออุทาหรณ์ เพราะว่าคนที่เสียชีวิตก็มีความรู้มีการศึกษานะ ไม่ใช่อย่างคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ ผมว่าเคสแบบนี้แล้วถ้าผลสรุปมันออกมาว่า เกิดจากข้อปฏิบัติบางตัวที่ไม่ได้เน้นย้ำให้ประชาชนฟังชัดๆ มันก็อาจจะเกิดเคสแบบนี้ซ้ำๆขึ้นเรื่อยๆ สร้างความหวั่นไหวให้กับประชาชน"