ทนายพัฒน์ ซัดแรงทนายตั้ม ประเพณีนักกฎหมาย ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา

11 มิถุนายน 2564

ทนายพัฒน์ ทนายเมียหลวงชื่อดัง ซัดแรงทนายตั้ม ปมพาลุงพล ร้องกมธ. แถลงข่าวที่รัฐสภา ลั่นในประวัติศาสตร์บ้านเมือง ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา ประเพณีนักกฎหมายไม่เคยมี อย่าหาทำ"

จากกรณีที่ ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้พานายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาล มาพบนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารเป็นเท็จเพื่อออกหมายจับตนเอง และมีการแถลงข่าวที่รัฐสภา 

ทนายพัฒน์ ซัดแรงทนายตั้ม ประเพณีนักกฎหมาย ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา

 

โดยรื่องราวดังกล่าวทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวตำหนิในขณะที่อภิปรายชี้แจง การออก พ.ร.ก เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท โดยระบุว่า "ผมไม่รู้ที่รัฐสภาทำอะไรได้บ้างตอนนี้ ท่านประธานก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อกี๊ก็ไปแถลงข่าวกันข้างล่าง เอาผู้ต้องหามาแถลงข่าวสู้คดีอยู่ข้างล่างใต้ถุนสภาฯ (ลุงพล) มันอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทยผมไม่รู้ ท่านประธานดูแลไม่ไหวหรอกครับ ทุกคนต้องช่วยกัน"

ทนายพัฒน์ ซัดแรงทนายตั้ม ประเพณีนักกฎหมาย ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา

ขณะที่ทางด้าน ทนายพัฒน์ ทนายความชื่อดัง ที่เคยเป็นข่าวเข้าไปช่วยว่าความให้เมียหลวงที่ไลฟ์สดถือใบทะเบียนสมรสกลางงานแต่งงานของสามีตำรวจ ที่แอบไปแต่งงานซ้อนกับหญิงคนอื่น จนกลายเป็นทนายของเมียหลวงที่โด่งดัง ได้ออกเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าวโดยมีการโพสต์รูปภาพที่มีการระบุข้อความว่า "การนำผู้ต้องหาไปที่สภา ไม่ใช่ไม่ถูกต้อง แต่มันไม่ควร ถ้ามีคนหนึ่งทำได้ คนอื่นก็จะทำตาม บ้านนี้เมืองนี้จะวุ่นวายขนาดไหน ถ้าทุกคนเรียกร้องแต่ความเป็นธรรม ทั้งๆที่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ประเพณีนักกฎหมายไม่เคยมี อย่าหาทำ"

ทนายพัฒน์ ซัดแรงทนายตั้ม ประเพณีนักกฎหมาย ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา

นอกจากนี้ ยังมีการระบุแคปชั่นรูปภาพว่า "#ฝากไว้ให้คิดครับ ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์บ้านเมือง ประเพณีก็ไม่มี แล้วเราจะให้ประชาชนเขาเคารพได้อย่างไร ... #ผมเป็นห่วงครับ #ทนายเมียหลวง"

ทนายพัฒน์ ซัดแรงทนายตั้ม ประเพณีนักกฎหมาย ไม่เคยมีใครพาผู้ต้องหาไปรัฐสภา