สืบเนื่องจากกรณีเจ้าของร้านสเต็กร้านหนึ่งได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตนถูกล่อซื้อน้ำส้ม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ทักแชทมาหา ก่อนสั่งน้ำส้มของเธอจำนวน 500 ขวด ก่อนที่จะแสร้งมานั่งทานสเต็กแล้วทำทีไปดูว่ามีน้ำอะไรจำหน่ายบ้าง จากนั้นจึงแสดงตัว ซึ่งเธอบอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกเงินเธอไป 12,000 บาท
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า ตนได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งได้สั่งให้ออกนอกพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพฯแล้ว นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่สังคม ทั้งนี้ขอยืนยันกรมสรรพสามิต ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ออกรังแกประชาชนไปล่อซื้อในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดเช่นนี้เป็นอันขาด
ขณะเดียวกัน หนึ่งในเจ้าหน้าที่สรรพสามิตชุดล่อซื้อที่ได้เข้าไปล่อซื้อในวันดังกล่าวยังได้บอกอีกว่า วันดังกล่าวนั้นได้กระทำเช่นนั้นจริง แต่เรื่องการขอปรับเงินจำนวน 12,000 บาท นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตักเตือนเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าของร้านสเต็กที่ถูกล่อซื้อดังกล่าวยังไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เพิ่มเติมเนื่องจากเธอเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งโพสต์ล่าสุดของเธอยังคงเป็นข้อความที่เธอได้โทร.ไปหาทางกรมสรรพสามิตว่า ในกรณีเช่นนี้เธอจำเป็นต้องมีใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่งทาง กรมสรรพสามิต ได้ให้คำตอบว่า ไม่ต้องมีใบอนุญาตก็ได้เนื่องจากไม่ได้เป็นโรงงานขนาดใหญ่