ประมาทไม่ได้แม้แต่เสี้ยวนาทีกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่กำลังกระจายอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งล่าสุดมีข้อมูลอันน่าตกใจรายงานเพิ่มขึ้นมาอีกว่า อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ พบรายงานคลัสเตอร์ใหม่สายพันธุ์อินเดีย ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า จากการตรวจแยกสายพันธุ์ในรอบการระบาดเดือนเมษายน ที่มีการสุ่มตรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 5,500 ราย พบว่า
สายพันธุ์อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ) พบจำนวน 4,528 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.6
สายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) พบจำนวน 496 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.6
สายพันธุ์เบตา (สายพันธุ์แอฟริกา) พบจำนวน 31 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.6
นอกจากนี้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ยังได้ระบุต่อไปว่า พบรายงานคลัสเตอร์ใหม่ สายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยข้อมูลพบว่า มีกลุ่มผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 10 ราย เป็นกลุ่มคนไข้ที่เข้ารับการรักษาตัว แต่ต้องรอข้อมูลการสอบสวนโรคอีกครั้ง ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์เดิม คือแคมป์คนงานหลักสี่หรือไม่
ทั้งนี้ยังพบอีกว่า อัตราการพบผู้ติดเชื้อโควิด - 19 สายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) 2 เพิ่มขึ้นกว่า 20 จังหวัด ซึ่งทั้งหมดยังเชื่อมโยงกับพื้นที่แรกที่พบ คือจากกลุ่มคนงานที่แคมป์คนงานหลักสี่ กรุงเทพฯ ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด ซึ่งพบเพิ่มในจังหวัด พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครนายก ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุดรธานี สกลนคร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี ปทุมธานี และพะเยา โดยพบเพิ่มจังหวัดละ 1-2 ราย
อย่างไรก็ตาม นพ.ศุภกิจ ยังได้คาดการณ์ว่า โควิดสายพันธุ์อินเดียนั้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น เหมือนสายพันธุ์อัลฟา หรือ สายพันธุ์อังกฤษ คาดการณ์อีก 2 - 3 เดือนข้างหน้า สายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์อัลฟาจะมีความใกล้เคียงกัน ต้องเฝ้าระวังว่าจะมีผลต่อเรื่องการเสียชีวิต และมีผลต่อวัคซีนมากน้อยเพียงใด