ด้วยประกาศราชกิจจานุเบกษาที่ได้แพร่ประกาศตอนเวลาประมาตีหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้น ทางนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศประกาศมาตรการคุมเข้มแคมป์คนงาน นั่นทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะต่างเรียกร้องให้นายกฯ เร่งช่วยเหลือคนเดือดร้อน เนื่องจากหลายคนไม่พอใจอย่างมากที่ได้แพร่ประกาศแบบไม่ทันตั้งตัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯตู่ เครียดเรียกประชุมด่วน เตรียมเยียวยาร้านอาหาร - ประชาชน
- โฆษกรัฐบาล ยืนยัน ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา ไม่ใช่การล็อกดาวน์กรุงเทพฯ
- สู้ไปด้วยกัน!สตีฟ คาเฟ่ - หมูทอดเจ๊จง ขอซื้อวัตถุดิบจากร้าน ช่วยเยียวยาการค้างสต็อก หลังรัฐบาลประกาศห้ามนั่งกินที่ร้านแบบฉุกเฉิน
เกี่ยวกับเรื่องนี้เรียกได้ว่ากำลังได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ร่วม แคมเปญใหม่ #กูจะเปิดมึงจะทำไม เพื่อช่วยกันเรียกร้องให้บรรดาร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการดังกล่าวพร้อมระบุรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมดังกล่าวโดยจะเป็นเป็นขั้นเป็นตอนดังนี้
1. กิจกรรมระยะแรก : Flashmob ดาวกระจาย
โดยจุดมุ่งหมายของกิจกรรมนี้คือ ชักชวนเปิดขายอาหาร + เครื่องดื่มกลับบ้าน และจัด event เปิดเวทีปราศรัย เล่นดนตรี unplugged ในร้าน ให้เข้าฟังร้านละ 20 คน จัดทีละเขต (ถ้าดูในฟอร์มจะเห็นว่าเราให้ระบุพื้นที่ สน.ไว้) เขตละ 5 - 10 ร้านในวันเดียวกัน ใครสะดวกไปร้านไหนไป แล้วก็เปลี่ยนไปจัดเขตอื่นต่อ ไอเดียมาจากงานคืนกลางคืน ของศิลปิน ปชต. กับร้าน Junk House Music Bar
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
2. กิจกรรมระยะสอง : Open! ส่งเสียงขนาดนี้แล้วไม่ฟัง เราก็อย่าฟังมัน
เปิดร้าน เปิดให้นั่ง ขายเหล้าเบียร์ เล่นดนตรีสด แบบมีมาตรการ รักษาระยะห่าง ไม่ต้องประชาสัมพันธ์ ไม่ต้องเอิกเกริก แต่เปิดโอกาสให้ลูกค้าประจำและเพื่อนฝูงได้มาสนับสนุนคุณ ถ้ามีการมาจับกุม เราก็รวมพลังกันด่าและสู้ ถึงตอนนั้น เครือข่ายเราก็จะแข็งแรงแล้ว
3. กิจกรรมระยะสาม : Market Place + Mob ถ้าทำขนาดนี้แล้วยังไม่เกิดอะไร ลงถนนกันเถอะ
ออกร้านขายอาหารบนถนนกันค่ะ เปิดลานเบียร์ ตั้งเวทีเล่นดนตรี แล้วก็ปราศรัยใหญ่ด่าพวกมัน เชื่อว่าคนเอาแน่ ลูกค้าคุณจะตามมาซื้อ มวลชนจะมากินมา support แน่ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวเริ่มต้นจากการกรอกฟอร์ม ซึ่งข้อมูลนี้จะไม่เปิดเผยที่ไหน เราจะเก็บไว้ติดต่อส่วนตัว และสร้างเครือข่ายแนวร่วมสำหรับการทำงานระยะต่างๆ ส่วนในแง่มุมขของกฎหมายฝ่าฝืนพ.ร.ก. แล้วโดนจับ อาจจะโดนค่าปรับ 40,000 บาท ร้ายแรงสุดคืออาจโดนสั่งปิดได้ แต่จะมีทนายคอยช่วย มีทีมเจรจาเจ้าหน้าที่ มีคนรอสนับสนุนร้านที่จะเปิด และมีคนรอร่วมด่ามากมาย เพราะฉะนั้นจงอย่ากลัว
นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียเบื้องต้นจากการปรึกษาหลายๆ คน ตนเข้าใจว่ามีความเสี่ยงหลายอย่าง แต่จุดนี้ถ้าจะสร้างเครือข่าย และเกราะป้องกันช่วยเหลือกัน ทางร้านคงต้องแสดงความกล้าหาญและประกาศตัวแล้ว เริ่มจากการกรอกฟอร์ม หรือไปชวนร้านโปรด และถ้าร้านไหนอยากร่วมแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม สามารถลงชื่อได้ ที่นี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อทีมข่าวได้เข้าตรวจสอบอีกครั้งกลับพบว่า โพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว แต่กิจกรรมที่ให้ลงชื่อยังคงมีอยู่