ด้วยสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังวิกฤตจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงทำให้เหล่าคนไทยส่วนใหญ่ต่างจับตามองการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พร้อมคณะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อติดตาม ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นวันแรก
แต่การมาเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในครั้งนี้ ดูจะไม่ราบรื่นอย่างที่คณะรัฐมนตรีคาดหวังเสียแล้ว เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์จากในโลกออนไลน์ ถึงความผิดพลาด 3 ข้อใหญ่ๆ ของนายกรัฐมนตรี จนทำให้แฮชแท็ก #ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ จนมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อนในโลกออนไลน์
โดยในช่วงตอนหนึ่งของการเปิดโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือในชื่อโครงการ ฮักไทย ฮักภูเก็ตนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเวลานี้คนเราต้องการกำลังใจกัน ตนมาติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในฐานะที่ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง และถ้าทำสำเร็จเราก็มีแผนจะเปิดการท่องเที่ยวในอีกหลายจังหวัด เราต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะของภูเก็ต ที่มีผู้ประกอบการจำนวนมาก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวต่อไปว่า "อยากให้ภูเก็ตเป็นปราสาททราย เพราะขึ้นต้องด้วยแซนด์บ็อกซ์ ที่เราก่อสร้างด้วยทรายกันมา เป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ"
แต่หลังจากที่มีนายกฯ ตีความว่า แซนด์บ็อกซ์ = ปราสาททราย ก็กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ทันที ทั้งที่คำว่า แซนด์บ็อกซ์ คือ กระบะทราย ซึ่งในภาษาคอมพิวเตอร์นั้น หมายถึงพื้นที่จำนวนหนึ่งที่ถูกกันเอาไว้ใช้ในการทดลอง ก่อนที่จะรันโปรแกรมจริงๆ เหมือนกับภูเก็ตที่ถูกทดลองเป็นกระบะทราย ถูกกันไว้นำร่องการท่องเที่ยว ก่อนที่จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ของไทย
ทั้งนี้ คำว่าปราสาททราย เป็นคำที่มีความหมายไม่ดีในภาษาไทยเช่นกัน เพราะปราสาทที่สร้างมาจากทราย ย่อมโดนคลื่นพัดและพังถล่มได้ทุกเมื่อ
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้โซเชียลเดือดอย่างมากคือ ภาพที่ พล.อ. ประยุทธ์ พร้อมคณะได้นั่งล้อมวงบนโต๊ะริมทะเล โดยไม่สวมแมสก์ ไม่เว้นระยะห่าง ชมวิวอย่างสบายใจ ทั้งที่มีประกาศห้ามรวมตัวกัน และต้องรักษาระยะห่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดโควิด
อีกหนึ่งดราม่าที่กำลังตามมาคือ การเดินหนีนักข่าว ของนายกรัฐมนตรี หลังโดนจี้ถาม มาภูเก็ตทำไม ตอนนี้ทั้งๆ ที่ยอดผู้เสียชีวิตของคนไทยทำนิวไฮไปแล้ว ซึ่งมีช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ นักข่าวท่านหนึ่งได้ถามว่า เหตุใดคนใหญ่คนโตของรัฐบาล มาอยู่ที่ภูเก็ตหมดเลย ไม่มีใครอยู่ กทม. เลย ทั้งที่วันที่ 1 ก.ค. มียอดคนเสียชีวิตทำนิวไฮถึง 53 คน ซึ่ง นายกฯ ที่ตอนแรกตั้งใจฟังคำถาม เดินหนีนักข่าวด้วยความหงุดหงิด และโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณว่า ไม่ขอตอบในเรื่องนี้