ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 96 คน ประสบอุบัติเหตุพุ่งตกขณะลงจอด ก่อนเวลาเที่ยงวันอาทิตย์ (4 ก.ค.) บนเกาะโจโลของจังหวัดซูลู โดยพบทหารเสียชีวิต 47 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 49 นาย ขณะที่พลเรือน 3 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บ
พลตรีเอ็ดการ์ด อาเรวาโล โฆษกกองกำลังติดอาวุธของฟิลิปปินส์ กล่าวว่าปฏิบัติการค้นหาชิ้นส่วนเครื่องบินและกล่องดำยังคงดำเนินต่อไปบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ ขณะที่ทีมสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปยังจังหวัดซูลู
เครื่องบินทหารลำดังกล่าว ซึ่งบรรทุกกำลังพลทหารที่เพิ่งได้รับการฝึกหัดใหม่ ประสบเหตุพุ่งตกและระเบิดหลังไถลเลยพื้นที่รันเวย์ เมื่อเวลาราว 11.30 น. ของวันอาทิตย์ (4 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่กี่นาทีหลังเกิดเหตุ กองกำลังทหารและอาสาสมัครพลเรือนต่างรีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือทันที
“ผู้เห็นเหตุการณ์เห็นทหารจำนวนหนึ่งกระโดดออกจากเครื่องบินก่อนที่จะดิ่งสู่พื้น ซึ่งทำให้พวกเขารอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น” กองทหารเผย
ทั้งนี้ เอกสารจากกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ (PAF) ระบุว่าเครื่องบินที่ประสบเหตุดังกล่าวเป็นเครื่องบินมือสอง รุ่นซี-130 เฮอร์คิวลิส (C-130 Hercules) ที่สั่งซื้อมาจากกองทัพสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งมีหมายเลขหางคือ “5125” โดยเครื่องบินดังกล่าวถูกส่งมาถึงฟิลิปปินส์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจัดพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์
“ซี-130เอช เอ็นอาร์ 5125 (C-130H NR 5125) เป็นเครื่องบินรุ่นซี-130เอช ลำแรกจากสองลำที่ฟิลิปปินส์ได้รับจากรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านความช่วยเหลือความร่วมมือด้านความมั่นคง” กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์เมื่อเดือนมกราคม
เดลฟิน ลอเรนซานา รัฐมนตรีกระทรวงฯ ยืนยันว่าฟิลิปปินส์สั่งซื้อเครื่องบินซี-130เอช จำนวน 2 ลำ ผ่านความช่วยเหลือความร่วมมือด้านความมั่นคง ระหว่างพิธีส่งมอบที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
“ฟิลิปปินส์จะจ่ายเงินเพียง 1.6 พันล้านเปโซ (ราว 1 พันล้านบาท) จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.5 พันล้านเปโซ (ราว 1.6 พันล้านบาท)” ลอเรนซานากล่าว พร้อมเสริมว่าสหรัฐฯ ตกลงที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ
เครื่องบินซี-130เอช เอ็นอาร์ 5125 ลำดังกล่าว เริ่มออกบินครั้งแรกในปี 1988 และประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ จนกระทั่งถูกเก็บเข้าคลังในปี 2016 ก่อนจะถูกจำหน่ายและส่งให้กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม 2021
ที่มา xinhuathai