ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศไทย ล่าสุด (7 ก.ค.64) พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น 6,519 ราย แยกเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 4,958 ราย ผู้ป่วยการค้นหาเชิงรุก 1,490 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 55 ราย ผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 16 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 301,172 ราย (สะสมระลอกใหม่ 272,309 ราย) หายป่วยเพิ่ม 4,148 ราย หายป่วยสะสม 231,171 ราย (หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 203,745 ราย) รักษาอยู่รวม 67,614 ราย อาการหนัก 2,496 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 676 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย สะสมแล้ว 2,387 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า สำหรับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครพบสายพันธุ์เดลตา มีการรายงานค่อนข้างมากมีแนวโน้มสูงขึ้น และเมื่อมีการเดินทางไปยังต่างจังหวัดจึงมีการกระจายของสายพันธุ์เดลตาออกไป ขณะที่สายพันธุ์อัลฟาพบน้อยลง โดยสรุปผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าขอความร่วมมือผู้สูงอายุเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อมีโอกาสรุนแรงและเสียชีวิต
ขณะที่ทางด้านแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเป็นห่วงเรื่องของการแพร่ระบาด มีการประเมินคร่าวๆ ว่า เริ่มพบสายพันธุ์เดลตาประมาณช่วงเดือน มิ.ย. ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าสายพันธุ์นี้มีความสามารถแพร่กระจายเร็ว คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 เท่า (Doubling time) ภายใน 2 สัปดาห์ ตอนนี้เราจะเห็นตัวเลข 1,000 ขึ้นเป็น 2,000 เป็น 4,000 ถ้าสมมติเราคาดการณ์ไปในสัปดาห์หน้าอาจจะยังขึ้นได้ถึง 10,000 รายต่อวัน ขอทุกท่านให้เน้นย้ำมาตรการส่วนตัว ที่สำคัญคือการลดการเคลื่อนย้าย เฝ้าระวังผู้สูงอายุ และเน้นย้ำการฉีดวัคซีน